4 โจ๋เหี้ยม รุมกระทืบชายสูงวัย  ในวัดจนสลบ 

          เมื่อที่ 14 เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2564    เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่า รุมกระทืบชายสูงวัย ถูกทําร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บโดยคนร้ายได้ขโมยรถพ่วงข้างและได้ขโมยแหวนรุ่นของลูกชายที่เสียชีวิตไปด้วย  สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี  ซึ่งตรงบริเวณพื้นที่เกิดเหตุนั้นอยู่ในเขตพื้นที่ของวัดเขมาภิรตาราม ตรงบริเวณศาลาริมเขื่อน 

        โดยผู้บาดเจ็บได้ให้ข้อมูลทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าในช่วงเวลาเกิดเหตุนั้นเขาได้นั่งอยู่ที่ศาลาริมเขื่อนภายในวัดเนื่องจากว่าอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจที่เพิ่งสูญเสียลูกชายไประหว่างที่กำลังนั่งคิดถึงลูกอยู่นั้นปรากฏว่ามีวัยรุ่นอยู่กลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาหาเรื่องซึ่งผู้บาดเจ็บได้มีการตอบโต้ไปว่าเขานั้นอายุมากแล้วและพ่อของเด็กๆเป็นรุ่นน้องเขาด้วย

        วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวจึงไม่พอใจ รุมกระทืบชายสูงวัย เนื่องจากว่าได้ยินคำว่ารุ่นน้องเป็นคำว่าลูกน้องจึงได้รวมตัวกันทำร้ายร่างกายโดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมดอย่างไรก็ตามวัยรุ่นทั้งหมดที่อยู่ในที่เกิดเหตุนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 10 คนแต่ที่ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายชายสูงวัยนั้นมีเพียงแค่ 5 คนเท่านั้นส่วนอีก 5 คนที่เหลือยืนดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ไม่ได้ห้ามปราม

        อย่างไรก็ตามในคลิปที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพเอาไว้ได้นั้นจะเห็นได้ว่าชายผู้บาดเจ็บนั้นพยายามยกมือไหว้ขอโทษเด็กวัยรุ่นแต่กลุ่มเด็กวัยรุ่นก็ยังคงทำร้ายจนชายคนดังกล่าวสลบหลังจากนั้นมีเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งพยายามที่จะถอดแหวนออกจากนิ้วของผู้บาดเจ็บซึ่งในขณะนั้นมีเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มได้มีการห้ามไม่ให้เอาของผู้บาดเจ็บไป

          นอกจากนี้ในเด็กกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในเหตุการณ์ยังได้พาผู้บาดเจ็บไปส่งที่บ้านหลังจากที่ทำร้ายผู้บาดเจ็บจนสลบแล้ว  จากเหตุการณ์ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่ทำร้ายผู้บาดเจ็บได้ทั้งหมดโดยมีการแจ้งความดำเนินคดีทั้งหมด 5 คนด้วยกันในขณะที่ฆ่าคนที่เหลือที่ไม่ได้ทำร้ายคนเจ็บนั้นจะถูกกันตัวไว้เป็นพยานซึ่งกลุ่มคนร้ายเป็นเพียงแค่เด็กวัยรุ่นอายุระหว่าง 13 ถึง 20 ปีเพียงเท่านั้นเอง

       หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ก็พาไปขอขมาผู้บาดเจ็บ ซึ่งทางคนเจ็บเองก็ให้อภัยกับวัยรุ่นทั้ง 5 คนด้วยในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำตัวไปฝากขังในสถานพินิจแล้วทั้งหมด 4 คนด้วยกันส่วนอีก 1 คนนั้นติดไวรัสโควิด-19 อยู่ที่โรงพยาบาลรักษาอาการป่วยและเมื่อรักษาอาการหายแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวไปไว้ที่สถานพินิจเช่นเดียวกัน 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet สมัคร