สาวโพสต์เตือนภัยถูกแก๊งเงินกู้โทรทางหนี้  ขู่เอาข้อมูลไปขายตลาดมืด

     สาวโพสต์เตือนภัยถูกแก๊งเงินกู้  มีหญิงสาวรายหนึ่งได้โพสต์เตือนภัยผ่านทาง facebook โดยระบุว่าเธอได้รับการติดต่อมาจากปลายทางซึ่งแจ้งว่าเป็นกลุ่มทุนหนี้เงินกู้ออนไลน์ให้เธอทำการชำระหนี้แทนผู้กู้

เนื่องจากว่าตัวเธอนั้นเป็นคนที่ค้ำประกัน  โดยปลายสายนั้นพูดจาด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพพูดแบบด่าคำเว้นคำโดยตัวเธอนั้นได้พยายามอธิบายและยืนยันกับปลายทางว่าเธอไม่เคยไปค้ำประกันให้กับใครและเธอไม่ได้เป็นคนกู้เงินดังนั้นเธอจึงไม่จำเป็นที่จะต้องจ่ายหนี้  

       อย่างไรก็ตามไม่ว่าเธอจะยืนยันมากแค่ไหนแต่ปลายทางก็ยังคงด่าทอเธอด้วยถ้อยคำหยาบคายพร้อมทั้งข่มขู่เธอได้ว่าหากเธอไม่ยอมชำระหนี้ให้พวกเขาจะนำข้อมูลส่วนตัวของเธอซึ่งข้อมูลส่วนตัวของเธอนั้นมีทั้งหมายเลขโทรศัพท์

ที่อยู่และเลขที่บัตรประชาชนนอกจากนี้แก๊งทวงหนี้ไม่ได้ทวงมาที่หมายเลขโทรหมายเลขเดียวแต่ยังโทรไปตามบ้านญาติๆของเธออีกด้วยซึ่งเธอได้รับการติดต่อจากแก๊งทวงหนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วโดยการโทรแต่ละครั้งนั้นก็จะมีการเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ ใหม่เรื่อยๆทำให้เธอไม่สามารถที่จะบล็อคได้  

  อย่างไรก็ตามเธอได้มีการบันทึกเสียงของแก๊งทวงหนี้เอาไว้และนำมาโพสต์ในโลกออนไลน์นี้ด้วยเพื่อเป็นการเตือนภัยให้กับใครที่เจอแก๊งทวงหนี้ก่อกวนให้มีสติอย่าลนหรืออย่ากลัวถ้าหากไม่ได้กู้เงินก็ไม่จำเป็นต้องโอนเงินจ่ายหนี้   สำหรับข้อความที่มีการบันทึกเสียงในคลิปแล้วนำมาเผยแพร่นั้น จะเห็นได้ว่าแก๊งทวงหนี้กลุ่มนี้ไม่ได้กลัวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยมีการอ้างว่าตนเองนั้นเป็นคนต่างชาติไม่ใช่คนไทยและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถที่จะจับกุมพวกเขาได้อย่างแน่นอน   

      หลังจากที่โพสต์และคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ทำให้คนในโลกออนไลน์ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมากและหลายคนนั้นระบุว่าตัวเขาเอง  ทางเข้า ufabet   หรือคนรู้จักของพวกเขานั้นก็ถูกแก๊งทวงหนี้ตามทวงหนี้และตามข่มขู่เช่นเดียวกันทั้งที่หลายคนนั้นไม่ได้เป็นหนี้ไม่เคยมีการกู้เงินผ่านทางออนไลน์มาก่อนซึ่งเชื่อว่าแก๊งทวงหนี้กลุ่มนี้น่าจะเป็นพวกแก๊งมิจฉาชีพซึ่งถ้าหากว่าเรามีความหวาดกลัวรีบโอนเงินไปให้พวกแก๊งนี้ก็จะได้เงินไปใช้งานฟรีๆ

           ซึ่งที่จริงแล้วอาจจะไม่มีการไปทำการกู้หนี้เลยก็ตามเพราะถ้ากรณีมีการกู้เงินก็จะต้องมีการทวงกับคนที่กู้และถ้าหากว่าจะมีการค้ำประกัน ก็มีการยินยอมจากทางผู้ค้ำประกันก่อนไม่ใช่อ้างชื่อว่าบุคคลนี้มาค้ำประกันให้และเป็นเสร็จพิธีเพราะฉะนั้นถ้าหากใครเจอว่ามีการโทรเข้ามาข่มขู่ให้ชำระหนี้โดยที่ไม่ได้กู้เงินก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหวาดกลัวสามารถบันทึกเสียงเอาไว้เป็นหลักฐาน แล้วนำคลิปเสียงดังกล่าวไปแจ้งดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เลย 

หนุ่มใหญ่ ตะเวนทุบกระจกรถเพื่อขโมยทรัพย์สินอ้างหาเงินรักษาแม่ป่วยติดเตียง 

      หนุ่มใหญ่ ตะเวนทุบกระจกรถ  ที่จังหวัดนครปฐมเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายรายหนึ่งได้ซึ่งมีอายุ 51 ปีโดยคนร้ายรายนี้นั้นมักจะก่อเหตุขับรถมอเตอร์ไซค์ตะเวนไปตามท้องถนนแล้วเมื่อเห็นรถจอดอยู่บริเวณพื้นที่เปลี่ยวก็จะใช้ก้อนหินทุบกระจกรถและขโมยทรัพย์สินที่อยู่ภายในรถโดยคนร้ายนั้นมักจะเน้นไปที่เงินสดเป็นส่วนใหญ่ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้เมื่อวันที่ 19 เดือนมกราคมปีพศ 2560 5 ที่ผ่านมา 

        สำหรับคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้เสียหายเป็นจำนวนมากในหลายพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดอยุธยาหรือแม้แต่จังหวัดนครปฐมรวมถึงจังหวัดชลบุรีว่ามีคนร้ายทุบกระจกรถยนต์แล้วขโมยทรัพย์สินภายในรถไปซึ่งมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดและจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็พบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง 3 จังหวัดนั้นเป็นคนคนเดียวกัน

       อย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยและทราบตัวคนร้ายว่าเป็นใครก็รีบมีการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีทันทีซึ่งคนร้ายในครั้งนี้นั้นมีประวัติการถูกจับกุมมาแล้วหลายครั้งด้วยกันโดยมากจะก่อเหตุไปเรื่อยตะเวนก่อเหตุไปทั่วที่หลายจังหวัดเคยถูกจับกุมมาแล้วแล้วก็ถูกปล่อยตัว

โดยส่วนใหญ่แล้วถูกจับกุมในข้อหาที่เป็นโจรขโมยลักทรัพย์เมื่อถูกพ้นโทษออกมาก็ยังกลับมาก่อเหตุเหมือนเดิมอีกด้วยคนร้ายนั้นจะนำทรัพย์สินที่ขโมยได้ไปขายโดยอ้างว่าเงินที่ขายทรัพย์สินที่ขโมยมาได้นั้นจะเอาไปรักษาแม่ที่ป่วยหนักเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่

           ซึ่งคนร้ายยืนยันว่าหลังจากที่เขาออกมาจากคุกนั้นเขาพยายามที่จะหางานทำแต่ก็ไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงานเลยและเขาจำเป็นที่จะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากในการรักษาแม่ที่ป่วยดังนั้นเขาจึงจำเป็นที่จะต้องหาเงินด้วยการเป็นขโมยเข้าไปขโมยทรัพย์สินผู้คนอย่างไรก็ตามเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการค้นห้องพักของคนร้าย

เพื่อค้นหาทรัพย์สินที่มีการขโมยไปแต่ปรากฏว่าคนร้ายได้นำทรัพย์สินไปขายหมดแล้วในที่พักนั้นไม่มีของมีค่าอะไรเลยและจากการพูดคุยสอบถามคนร้ายในครั้งนี้ยืนยันว่าการก่อเหตุทุกครั้งนั้นทำแค่คนเดียวไม่มีเพื่อนร่วมขบวนการแต่อย่างใด 

        อย่างไรก็ตามเรามักจะเห็นข่าวคราวเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายในข้อหาลักทรัพย์ลักขโมยต่างๆได้และเมื่อมีการตรวจสอบประวัติย้อนหลังก็พบว่าคนร้ายเหล่านี้มักจะเคยก่อเหตุลักทรัพย์มาแล้วหลายครั้งและบางคนก็อาจจะเคยติดคุกมาแล้วหลายครั้งหลังจากออกจากคุกแล้วก็ยังกลับมาทำเหมือนเดิมอีกซึ่งถ้าหากว่ามีคนร้ายที่มีพฤติกรรมแบบนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจควรจะต้องมีการควบคุมตัวลงโทษให้หนักหรือติดคุกให้นานขึ้นเพื่อที่คนร้ายจะได้สำนึกได้และออกมาแล้วไม่ก่อเหตุซ้ำอีก

 

สนับสนุนโดย.  ทางเข้า ufabet