พบแล้ว 5 ชีวิต ที่ญาติออกตามหา พบว่าใช้ชีวิตปกติ ที่ลาดพร้าว ในเมืองกรุง 

ฃหลังจากที่ญาติได้ออกประกาศตามหา 5 ชีวิตที่หายตัวมาจากนครศรีธรรมราช ได้มีเบาะแสแจ้งมาว่า ได้พบ ทั้ง 5 คนนั้นพักอาศัย อยู่ที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง แถวย่านลาดพร้าว

ซึ่ง นักข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังสถานที่ทั้ง 5 ชีวิตได้พักอาศัยอยู่นั้น ก็พบว่าทั้ง 5 คน ใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้มีการ งอแงหรือขัดขืนกันเลยทั้งหมด 5 คน อันนี้เป็นเพียงเสียงสัมภาษณ์จากบุคคลรอบข้างที่เคยพบเห็นทั้ง 5 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็จะเป็นแม่ค้าที่อยู่แถวนี้

บอกว่า เห็นทั้ง 5 คนนั้นเดินผ่านที่หน้าร้านประจำและมีชายร่างใหญ่มาหาอยู่ตลอดเวลา ก็ใช้จ่ายกินอยู่กันตามปกติ น่าจะพักอาศัยอยู่ที่เดียวกัน

พอหลังจากที่กระแสข่าวออกไปแล้วนั้น ทางนักข่าวได้ลงพื้นที่ขอกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงก็พบว่าทั้ง 5 คนนั้นเดินเข้าออกอพาร์ทเม้นท์เป็นประจำ และยังพบ ในแบงค์ที่นำตัวทั้ง 5 คนนั้นอยู่อพาร์ทเม้นท์นี้ด้วย

แต่จะไปมา ไม่นอนพักค้างอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์กับทั้ง 5 ชีวิตโดยมีบุคคล เพิ่มมาอีก 1 คนชื่อนายโบ้คิดว่าน่าจะเป็นลูกน้องของนายแบงค์  อีกทีหนึ่ง แต่หลังจากที่กระแสข่าวได้โจมตีออกไปแล้วนั้นนายแบงค์ ก็ได้นำรถกระบะ มารับตัวทั้ง 5 คนหลบหนีไปโดยไม่ทราบว่าทั้ง 5 คนนั้นถูกนายแบงค์นำตัวไปไว้ที่ไหน

จากปากแม่ค้าแถวนั้นก็พูดตามที่กล้องวงจรปิดได้บันทึกวีดีโอไว้นั้น ได้นำรถกระบะและนำตัวทั้ง 5 คนขึ้นรถไปโดยไม่ทราบจุดหมายปลายทางว่าจะนำทั้ง 5 คนนั้นไปทำอะไรต่อ

ทางนักข่าวจึงได้ติดต่อไปแจ้งญาติ ที่ตามหาที่ จังหวัด นครศรีธรรมราช ว่าทั้ง 5 ชีวิตนั้นยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่ทราบว่าไปอยู่จุดไหนหลังจากที่ได้พบว่าอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์แถวลาดพร้าว ซึ่งทางญาติพี่น้องก็เริ่มจะเป็นห่วงเนื่องจากว่ากลัวว่าในแบงค์จะพาไปทำ  สิ่งที่ผิดกฎหมายจึงต้องหลบหนีตำรวจ

เพราะคิดว่าหาก ไม่ทำผิดก็ไม่ต้องหลบหนีแบบนี้คิดว่าจะต้องทำอะไรไม่ดีหรือทำธุรกิจสีเทาที่เกรงกลัวต่อกฎหมายจับกุมจึงได้หลบหนีไปแบบนี้ ทางญาติของทางนางอุษาเองก็วิงวอนให้ทางนางอุตส่าห์นั้นติดต่อกลับมาและกลับมาที่บ้านเกิดเพื่อมาใช้ชีวิตปกติ

ทุกคนที่บ้านพร้อมที่จะให้กำลังใจและพาเด็กๆกลับมาเรียนหนังสือปกติ ส่วนนายแบงค์นั้นก็วิงวอนให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งหาตัวมาดำเนินคดีคิดว่าน่าจะหลอกลวงให้ผู้อื่นเสียทรัพย์สินและนำทรัพย์สินผู้อื่นไปจำนำใช้เงิน อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะพยายามนำตัวทั้ง 5 คนนั้นกลับไปให้ญาติที่บ้านเกิดและจะดำเนินคดีนายแบงค์ตามกฎหมาย

 

สนับสนุนโดย    หวยดี.com

หนุ่มกะลา นักร้องชื่อดัง เจ้าพ่อเพลงรัก เสียงนุ่มออกมาไลฟ์สด พร้อมหย่ากับภรรยา 

 เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2566 ทางคุณหนุ่ม กะลา ได้ออกมาไลฟ์สดผ่าน Facebook ส่วนตัว โดยแจ้งรายละเอียดว่าขอน้อมรับผิดทุกอย่าง กับกระแสที่มีคำใบ้ออกมา ว่ามีนักร้องหนุ่มเสียง

เพราะ ถ้าเมียหลวงและเมียน้อย ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น คนละรอบภายในเดือนเดียวกัน ซึ่งก่อนหน้านั้น ก็ได้มีคำใบ้ออกมาเรื่อยๆ และชาวโซเชียล ก็ต่างพากันขุดภาพของคุณหนุ่มกะลา ที่ได้มีการไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น กับหญิงสาวคนหนึ่ง ที่จะเป็น CEO ของ เสริมความงามยี่ห้อหนึ่ง ก็มีกระแสออกมาเรื่อยๆ ว่าทางคุณหนุ่มนั้นแอบมีเมียน้อยโดยที่ภรรยานั้น

รับทราบมาก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ได้แต่เงียบยังไม่ออกมาเปิดเผย ก็ต่างพากันเราไป ต่างๆนานาจนล่าสุดเอง ทางเจ้าตัวของทางคุณหนุ่มกะลานั้น ก็ได้ออกมาไลฟ์สด 

บอกเพียงว่า จะทำการหย่ากับทางภรรยาที่ได้คบหาดูใจกันมา 20 กว่าปี และมีลูกสาว น้องมิลค์ด้วยกัน 1 คน  และขอโทษแฟนคลับที่ทำให้ผิดหวังกับเรื่องราวที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ โดยการที่ คุณหนุ่มกะลานั้น ได้ออกมา ชี้แจงข้อมูลผ่านทางไลฟ์สดนั้น มีการอธิบาย ประมาณว่า  ได้แยกกันอยู่กับทางภรรยามา 2 ปีแล้ว ซึ่งตัวคุณหนุ่มเอง

  ได้ออกมาอยู่บ้านกับคุณแม่ และทางคุณจูนนั้นได้อยู่บ้านของทางคุณจูนเองได้แยกกันอยู่ กันมาก่อนหน้านี้แล้ว  และมีการแจ้งรายละเอียดในส่วนของรายรับสำหรับการทำงาน ของปีที่ผ่านๆมา รายได้ทุกบาท จะผ่านทางภรรยา 100%   ซึ่งทางตัวคุณหนุ่มกะลาเองนั้นไม่ได้รับเงินค่าแสดงค่าเล่นคอนเสิร์ตใดๆทั้งสิ้น

โดยจะเข้าผ่านบัญชีของภรรยาคุณจูนเท่านั้น ตัวคุณหนุ่มเองนั้นไม่มีเงินเลยสักบาท และจะเคลียร์ เรื่องราวทั้งหมดนี้ให้จบภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2566 โดยการที่ออกมาไลฟ์สดในครั้งนี้ มีการพูดคุยกันมาก่อนแล้วและตกลงว่าจะให้สิ้นสุดภายในสิ้นเดือนนี้และเรื่องราวจะจบเพียง เท่านี้จะไม่มีการ  ออกมาชี้แจงใดๆทั้งสิ้น

หลังจากที่ทางคุณหนุ่มกะลานั้นได้ออกมาไลฟ์สดผ่าน Facebook ชี้แจ้งรายละเอียดแจงแค่ว่าจะทำการหย่ากับภรรยาคุณจูนภายในสิ้นเดือนนี้นั้น

ทำให้ บรรดาแฟนคลับผิดหวังกับนักร้องหนุ่มเสียงเพราะเจ้าพ่อเพลงรัก ที่ ตัดสินใจ ผิดพลาดในการที่ไม่เลือกครอบครัวตนเอง และยังไม่มีการปฏิเสธในเรื่องของภรรยาน้อยเลย ทางแฟนคลับนั้นก็ต่าง คอมเม้น ไปในทางเดียวกันว่าต้องมีเมียน้อยจริงถึง ยอมเซ็นใบหย่ากับภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทางแฟนคลับ เท่านั้น

ยังไม่พอบางรายก็ได้มีการเลิกติดตามทุกอย่างทุกช่องทางของคุณหนุ่มกะลาและยังแนะให้คุณจูน เมียที่ถูกต้องตามกฎหมายนั้นฟ้องเมียน้อยคนนี้ให้รู้จัก กฎแห่งกรรมและเสียค่าปรับจากการโดนฟ้อง ในครั้งนี้ด้วย ทางด้านคุณจูนภรรยาของคุณหนุ่ม กะลา ก็ได้ติดต่อไปยังทนาย เพื่อที่จะทำการฟ้องเมียน้อยคนนี้ด้วยจำนวนเงิน 10 ล้านบาท

โดยมีข้อแม้ว่าให้จ่ายภายใน 3 วัน หากไม่จ่ายภายใน 3 วันนี้ เรื่องถึงศาลและอาจจะเพิ่มจำนวนเงินในการฟ้องร้องในครั้งนี้ด้วย ส่วนเรื่องของการหย่านั้น ยังขอให้เป็นเรื่องของทางกฎหมายยังไม่ได้มีการตกลงที่จะเซ็นใบหย่ากับทางคุณหนุ่มกะลาแต่อย่างใด ต่อจากนี้ก็จะเป็นส่วนของทางทนายของคุณจูนที่จะทำการดำเนิน การตามขั้นตอนของกฎหมายฟ้องร้องเมียน้อยคนนี้ ตามขั้นตอนต่อไป

 

สนับสนุนโดย    หวยดี

นักวิเคราะห์ให้รายละเอียดสถานการณ์ที่เป็นไปได้สำหรับการจัดตั้งรัฐบาลชุดต่อไป

  อาจารย์รัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ระบุมีความเป็นไปได้ 3 กรณีในการจัดตั้งรัฐบาลชุดต่อไป ซึ่งขณะนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไปข้างหน้า

ไม่สามารถเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีก    รองศาสตราจารย์ ยุทธพร อิสสระชัย กล่าวว่า สถานการณ์แรกคือพรรคเพื่อไทยจะแยกบริษัทกับเดินหน้าเพื่อจับมือกับพรรคภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ชาติไทยพัฒนา ประชาชาติ และพรรคเล็กๆ อีกสองสามพรรคในการจัดตั้งรัฐบาล

    อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยต้องสามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดจึงตัดสินใจทิ้งพรรคเดินหน้าเพื่อไปหนุนพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นตัวแทนของเผด็จการ    สถานการณ์ที่สองคือการแยกบริษัทกับบริษัท Move Forward เพื่อจับมือกับบริษัทอื่น ๆ ยกเว้นพลังประชารัฐและสหไทย

อย่างไรก็ตาม มีข้อเสียเปรียบสำหรับสถานการณ์นี้   พันธมิตรอาจสั่งการเสียงข้างมากในสภาเพียงน้อยนิด ซึ่งอาจคุกคามเสถียรภาพ  ยิ่งกว่านั้น พรรคเพื่อไทยต้องอธิบายอีกครั้งถึงเหตุผลที่ตัดสินใจทิ้งพรรคเดินหน้า    

สถานการณ์ที่สามคือการคงอยู่ในแนวร่วมแปดพรรค แต่พรรคเพื่อไทยเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาล

  อย่างไรก็ตาม มีโอกาสเพียงเล็กน้อยสำหรับสถานการณ์นี้ เพราะพรรคเพื่อไทยอาจไม่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภาที่ต่อต้านอย่างเปิดเผยในการเดินหน้าในรัฐบาลชุดต่อไป นายยุทธพรกล่าว  ยังมีปัจจัยอีก 3 ประการที่พรรคเพื่อไทยต้องแก้ไข ได้แก่ การออกจากการเมืองของนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา แผนการกลับมาของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร และการเมืองของประชาชน   

สื่อต่างประเทศรายงานความทุกข์ยากของ คุณพิธา    สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานเกี่ยวกับการโจมตีซ้ำซ้อนที่พิธา    ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีจาก Move Forward เมื่อวันพุธ ซึ่งทำลายความหวังของเขาที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของประเทศไทย

  พิธา   ถูกสั่งพักหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราว จากคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ คดีถือหุ้นสื่อ  ราวกับว่านั่นยังไม่เพียงพอ รัฐสภาลงมติปฏิเสธความพยายามครั้งที่สองของเขาในการเสนอชื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี   สื่อต่างประเทศทุกสำนักอธิบายว่าเขาเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งทั่วไปและพรรคของเขากวาดที่นั่งในสภาได้มากกว่าพรรคอื่นๆ ในการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพฤษภาคม  

พวกเขารายงานความโกลาหลนอกอาคารรัฐสภาเมื่อวันพุธ ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาของปิตาและผู้สนับสนุนพรรคของเขาต่อสิ่งที่เกิดขึ้นภายใน สื่อคาดการณ์ว่าการประท้วงและความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้น

ในอนาคตอันใกล้นี้  CNN รายงานว่า รัฐสภาของไทยปิดกั้นการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีของผู้ชนะการเลือกตั้งทั่วประเทศในเดือนพฤษภาคม คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์”  นอกจากนี้ยังตราหน้าว่า Move Forward เป็นพรรคที่ก้าวหน้าและกรณีของ พิธา  เป็นสิ่งที่ทำลายอนาคต

 

สนับสนุนโดย    คาสิโนเวียดนาม