เซ็นค้ำประกันเป็นเหตุ  สุดท้ายกำลังจะโดนยึดบ้าน

        เซ็นค้ำประกันเป็นเหตุ  เมื่อวันที่ 16 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2564   ได้มีชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์  ได้ติดต่อขอนักข่าวเพื่อขอร้องเรียนเกี่ยวกับบ้านที่ตนอยู่อาศัยอยู่ในตอนนี้กำลังจะถูกยึด โดยชายคนดังกล่าวนั้นเป็นผู้พิการโปลิโอมาตั้งแต่เกิด   เขาได้เล่าให้นักข่าวฟังว่า บ้านที่เขาอาศัยอยู่ในขณะนี้เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงเป็นบ้านที่เขาอยู่อาศัยกับพ่อแม่และน้องชายมาตั้งแต่เด็ก

และบ้านหลังนี้ก็เป็นสมบัติของแม่ของเขาแต่แล้วอยู่ๆเขาก็ได้รับจดหมายส่งมาจากทางกรมบังคับคดีแจ้งว่าจะมีการติดประกาศขายบ้านหลังนี้ทอดตลาด

             ซึ่งเขาและน้องชายค่อนข้างงงมากจะถามพ่อก็ไม่สามารถทำได้แล้วเนื่องจากพ่อเสียชีวิตมาปีกว่าแล้วเขาจึงได้มีการโทรไปสอบถามที่กรมบังคับคดีจึงได้รู้ว่าบ้านหลังดังกล่าวนั้นพ่อของเขาเคยไปเซ็นค้ำประกันการซื้อรถให้กับอาของเขาแล้วสุดท้ายของเขาก็ไม่ยอมจ่ายเงินปล่อยให้รถโดนยึดสุดท้ายแล้วศาลจึงสั่งให้อายัดบ้านหลังนี้ เพราะยังมีเงินต้องจ่ายส่วนต่างหลังจากยึดรถไปแล้วอีกประมาณ 7 หมื่นกว่าบาทชายคนนี้ยังบอกอีกด้วยว่าครอบครัวเขาไม่เคยมีใครรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย

              เพราะเอกสารจากหมายศาลไม่เคยส่งมาถึงครอบครัวของเขามารู้ตัวอีกทีก็ได้เอกสารว่าจะยึดบ้านเพื่อขายทอดตลาดแล้วอย่างไรก็ตามเขาได้มีการติดต่อไปทางอาของเขาเพื่อให้ออกมารับผิดชอบ   แต่อาของเขาก็นิ่งเฉย  ทำให้เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร

เพราะตัวเขาเองขนาดนี้ก็เป็นคนพิการทำอะไรไม่ได้และไม่ได้มีเงินเก็บมากพี่จะไปใช้หนี้แทนผู้เป็นอาตอนนี้เขาและน้องชายได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักมากซึ่งเขาไม่รู้ว่าจะต้องติดต่อหน่วยงานไหนดังนั้นเขาจึงได้มีการร้องเรียนมาทางนักข่าวเพื่อให้ช่วยหาทางออกให้กับเขาด้วยในตอนนี้

           น้องชายของเขาเองก็เดือดร้อนไม่ต่างกันเพราะจากที่ต้องทำงานบริษัทมีเงินเดือนตอนนี้ก็ต้องออกมาจากงานเพื่อมาติดต่อกับหน่วยงานต่างๆวิ่งเต้นเพื่อที่จะทำอย่างไรก็ได้ให้บ้านไม่ถูกยึดอย่างไรก็ตามเขาได้มีการ ติดต่อไปยังกรมบังคับคดีโดยบอกกับทางเจ้าหน้าที่ว่าเขาเป็นคนพิการและเขาไม่มีเงินที่จะจ่ายหนี้ให้และไม่ต้องการให้ถูกยึดบ้านเพราะไม่เช่นนั้นเขาจะไม่มีบ้านอยู่อาศัยซึ่งทางกรมบังคับคดีก็เห็นใจและให้เขาผ่อนจ่ายเดือนละ 4,000 บาทได้

          อย่างไรก็ตามแต่เขาเป็นคนพิการที่ไม่ได้มีงานทำเพราะฉะนั้นเงินที่เขาก็มีใช้จ่ายในแต่ละเดือนก็คือเบี้ยเลี้ยงคนพิการซึ่งจะได้เพียงแค่เดือนละ 800 บาทเพียงเท่านั้นเขาจึงไม่รู้ว่าจะหาเงินก้อนนี้มาจากไหน เขาจึงอยากฝากเรื่องนี้ไปถึงคนที่พ่อเขาเซ็นค้ำประกันให้ว่าให้ช่วยออกมารับผิดชอบและเห็นใจเขาและครอบครัวของเขาด้วยเพราะเขาไม่สามารถที่จะรับผิดชอบแทนได้และที่สำคัญตัวเขาเองแล้วก็น้องชายไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลยจึงอยากให้หน่วยงานที่ติดตามหนี้ควรจะไปตามกับคนที่เป็นหนี้โดยตรงไม่ควรมาตามกับคนเซ็นค้ำประกันให้นั่นเอง