ลูกควรช่วยกันดู อย่าให้พ่อแม่ เล่นมือถือตามลำพัง 

        app ยอดนิยมของคนไทย ที่เมื่อเปิดมือถือมาแล้ว เราจะต้องเห็น app นี้ในมือถืออย่างแน่นอน หนึ่งในนั้นก็คือ app line นั่นเอง  สำหรับ app นี้ใช้สำหรับในการติดต่อสื่อสารกันในกลุ่มครอบครัว ญาติพี่น้องหรือแม้แต่เพื่อนฝูง   

        อย่างไรก็ตามแต่เห็นได้ว่าใน Application LINE นั้นเราไม่ได้เพียงสนทนากันเกี่ยวกับเรื่องของสารทุกข์สุขดิบทั่วไปเพียงเท่านั้น

แต่ยังคุยกันได้ทุกเรื่องและหนึ่งในข้อความที่มักจะมีการคุยกันหรือส่งกันมากที่สุดก็คือการสวัสดีตอนเช้าในกลุ่มของเพื่อนๆซึ่งเราเรียกกันว่ากลุ่มสวัสดีวันจันทร์   และที่สำคัญภัยร้ายต่างๆก็มักมีการแฝงตัวมากับข้อความที่มีการส่งกันเป็นแบบกลุ่มหรือเป็นการสนทนาหากันแบบตัวต่อตัวนั่นเอง

สำหรับ ภัยร้ายที่เรากำลังพูดถึงในกลุ่มของ Application LINE และอาจจะสร้างเสียหายให้กับคนที่ได้รับนั่นมีมากมายหลายอย่างด้วยกันไม่ว่าจะแฝงตัวในแก๊งวิชาชีพเข้ามาเป็นการส่งลิงค์หาแล้วให้กดตามลิงค์และแก๊งมิจฉาชีพก็จะสามารถดูดข้อมูลของเจ้าของมือถือจากลิงค์นั้นได้หรือแม้แต่ข้อความเฟสนิวต่างๆซึ่งถ้าหากใครหลงเชื่อแนะนำไปปฏิบัติตามก็อาจจะเป็นอันตรายต่อคนที่ปฏิบัติตามก็ได้เช่นเดียวกัน

ดังนั้นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่สุดก็คือการส่งข้อความใน Application LINE นั้นต้องส่งอย่างระมัดระวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งการแชร์ข้อความหากัน

ซึ่งต้องดูด้วยว่าข้อความที่มีการแชร์ต่อๆกันมานั้นเป็นข้อความที่เป็นข้อมูลจริงหรือไม่เพราะบางครั้งก็จะมีข้อความที่เป็น Face New เป็นจำนวนมากและถ้าหากว่าเด็กหรือแม้แต่คนสูงอายุหลงเชื่อและปฏิบัติตามก็มักจะทำให้เกิดอันตรายได้

ยกตัวอย่างเช่นชาย 1 ราย 1 เข้าออกมาโพสต์ข้อความแชร์ลงในรูปออนไลน์เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้กับบรรดาลูกหลานให้ช่วยดูพ่อแม่ของตนเองเนื่องจากว่าเขาประสบปัญหาว่าแม่ของเขานั้นเล่น Application LINE และได้รับข้อความเฟสนิวมาจากกลุ่มเพื่อนที่ส่งมาสวัสดีวันจันทร์

โดยในข้อความนั้นแนะนำเกี่ยวกับเรื่องของคนป่วยที่เป็นพวกโรคไขมันหรือความดันสูง ที่ต้องกินยาลดความดันและลดไขมันซึ่งในข้อความระบุว่ากลุ่มคนกลุ่มนี้ถ้าหากว่ากินยาลดไขมันและกินยาลดความดันมากๆมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะป่วยเป็นโรคมะเร็งทำให้คุณแม่ของชายหนุ่มคนดังกล่าวหยุดกินยาลดความดันและยาลดไขมันทันทีเนื่องจากว่าเกรงว่าตนเองนั้นจะป่วยเป็นโรคมะเร็งแทน 

 ภายหลังจากคุณแม่ของชายหนุ่มคนดังกล่าวหยุดกินยาโดยที่ไม่ได้มีการบอกกับลูกหลานคนไหนเลยและไม่ได้มีการปรึกษาว่าข้อมูลที่ได้มานั้นเป็นจริงหรือไม่ผลปรากฏว่าเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ปีพ.ศ 2566 อาการป่วยของคุณแม่ก็กำเริบขึ้นมีอาการหายใจไม่ออกและเจ็บหน้าอกโชคดีที่ส่งโรงพยาบาลทันทางโรงพยาบาลบอกว่าถ้ามาช้าอาจจะหัวใจวายตายและเสียชีวิตได้ 

    อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างของคนที่ปฏิบัติตามข่าวเฟสนิวดังนั้นก่อนที่เราจะทำตามข้อความที่มีการแชร์กันนั้นก็ควรจะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลเสียก่อนว่าเป็นข้อมูลที่แชร์กันถูกต้องหรือไม่ซึ่งเราสามารถหาข้อมูลที่แท้จริงได้จาก Google หรืออาจจะเป็นการปรึกษาแพทย์หรือคนในครอบครัวก่อน 

 

สนับสนุนโดย    หวยดี