มีชาวบ้านมาพบศพชายคนหนึ่งลูกค้าตัวเองเสียชีวิตอยู่ใต้ต้นไม้ภายในบริเวณวัดที่ชื่อว่าวัดกระซ้ายซึ่งวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาช่วยตรวจสอบข้อมูลจากศพพบว่าชื่อว่านายชาติชาย ศรีสายหยุด เป็นชาวจังหวัดพระจังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดยตรง ซึ่งก่อนหน้านี้มีคนเห็นว่านายชาติชายเคยมาโวยวายภายในบริเวณวัดโดยระบุว่าจะมาเผาวัดก่อนที่จะมีคนมาพบศพว่ามีการผูกคอตาย
ชาวบ้านต่างเชื่อกันว่านายชาติชายถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษที่มาพูดจาลบหลู่ในบริเวณบัสสถานที่วัดกระซ้ายแห่งนี้ เป็นวัดที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยโบราณอายุน่าจะราวๆ 563 ปีมาแล้วในวัดแห่งนี้สันนิษฐานกันว่าถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นได้ที่นี่เป็นสถานที่บรรจุพระอัฐิของพระบาทสมเด็จพระเอกาทศรถอีกด้วยจึงเรียกได้ว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีประวัติมายาวนาน
และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างมากเป็นวัดที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองอยู่หลายแห่ง โดยแห่งแรกนั้นเชื่อกันว่าเป็นที่อยู่ของหลวงปู่ วัดกระซ้าย นั้นก็คือที่พรธาตุ และจุดที่สองคือ ต้นตะเคียน และอีกจุดคือ ตนคาง ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิ่งสถิตอาศัยอยู่ ที่วัดกระแสแห่งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนมาผูกคอเสียชีวิตแต่มีการผูกคอเสียชีวิต
มานับไม่ถ้วนและรายล่าสุดนี้คือเป็นรายที่ 12 แล้วโดยแต่ละรายก็จะมีเรื่องราวแตกต่างกันไปแจ้งเหตุการณ์ที่ชาวบ้านเล่าลือกันนั้นก็มักจะพากันเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์รวมถึงวิญญาณของพระสงฆ์ที่เคยเสียชีวิตไปแล้วจะมาคอยยืนมองเหมือนไม่พอใจที่เห็นคนเข้ามารุกรานภายในบริเวณวัดซึ่งที่นี่ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา
หรือแม้แต่พระสงฆ์ที่จะเข้ามานั่งปรากฏปฏิบัติธรรมก็ไม่สามารถที่จะเข้ามาอยู่ได้ต่างก็พากันเจอสิ่งเร้นลับจนไม่มีใครกล้าที่จะอยู่แล้วที่นี่ภายใต้อุโบสถต่างๆก็ยังมีของเก่าสมัยตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาซึ่งมีวัยรุ่นหลายคนเคยเข้ามาลองของเพื่อจะขุดเอาพระเก่าไปขายแต่ก็เจอดีเข้าไปราย
ซึ่งครอบครัวของผู้เสียชีวิตต่างเชื่อว่าที่นายเจ้าชายไปผูกคอเสียชีวิตนั้นน่าจะเกิดจากความเครียดส่วนตัวของนายชาติชายเองเนื่องจากว่าทราบมาว่านายชาติชายมีมีปัญหากับแฟนอาจจะเป็นสาเหตุของการที่ทำให้นายชาติชายไปผูกคอจนถึงแก่ความตายก็ได้แต่หลายคนก็มองว่าเป็นเพราะนายชาติชายไปลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในบริเวณวัดจึงมีการดลใจให้นายชาติชายถูกลงโทษด้วยการแขวนคอตัวเอง
อย่างไรก็ดีที่วัดแห่งนี้จะมีนายสมหมายเป็นผู้ดูแลวัดรวมถึงจะมีทางกรมศิลปากรเดินทางมาทำความสะอาดและตรวจสอบความเสียหายของวัดเดือนละ 2 ครั้งซึ่งถือว่าวัดนี้เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานและควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ดังนั้นประชาชนจึงไม่ควรเข้าไปทำลายหรือไปลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อาศัยอยู่ภายในบริเวณวัด
สนับสนุนโดย betufa