เด็กติดเกมฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอ

เด็กติดเกมฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอสุดสยองพบมีการวาดรูปดาวเหมือนลัทธิซาตานก่อนตายไว้ภายในห้องพัก

           ที่บ้านหลังหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ได้มีเหตุคนผูกคอตายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบยังสถานที่เกิดเหตุซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 เดือนพฤษภาคมปีพ.ศ 2553 โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยเดินทางไปถึงก็พบว่าผู้ตายมีการแขวนคอตนเองอยู่กับคือของบ้านแต่ที่สร้างความสยดสยองและน่ากลัวให้กับคนที่เข้าไปพบเห็นศพนั้นก็คือผู้ตายได้ใช้มีดกรีดแขนของตนเองจนมีการเลือดออกไหลหยดลงพื้นและที่สำคัญตรงบริเวณพื้นที่ผู้ตายเสียชีวิตอยู่นั้นได้มีการเอาเลือดไปวาดเป็นสัญลักษณ์ของซาตานซึ่งเป็นรูปดาวอยู่ภายในวงกลม

ซึ่งสัญลักษณ์นี้เรามักจะเห็นตามภาพยนตร์หรือตามเกมต่างๆที่เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับเรื่องของซาตานสถานที่เกิดเหตุที่พบศพคนผูกคอตายนั้นพบว่าเป็นห้องเช่าซึ่งเป็นลักษณะของห้องเช่าชั้นเดียวมีหลายห้องอยู่ติดกันลักษณะคล้ายกับห้องแถวโดยห้องที่พบศพนั้นมีการเปิดเป็นร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่งพ่อของผู้เสียชีวิตได้บอกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าผู้เสียชีวิตอายุเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้น

ชื่อว่านายธีรพล  โดยปกติแล้วนายธีรพลมักจะเป็นเด็กติดเกมส์ไม่ค่อยออกไปไหนจะอยู่แต่ในห้องตลอดเวลาซึ่งภายในห้องของนายธีรพลนั้นก็จะมีแค่คอมพิวเตอร์แล้วก็พัดลมเท่านั้น ซึ่งพ่อและแม่ของนายธีรพลได้เล่าให้ฟังว่าตนเองนั้นเปิดห้องเช่าไว้ 2 ห้องซึ่ง 1 ห้องพ่อกับแม่จะอยู่ด้วยกันส่วนอีกห้องจะให้นายพลอยู่ซึ่งตัวนายพลนั้นตอนนี้กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

แต่ส่วนใหญ่แล้วเขามักจะไม่ค่อยสุงสิงกับใครเพราะเป็นเด็กติดเกม ช่วงหลังๆเด็กชายมักจะไม่ไปโรงเรียนเพราะอยู่บ้านเล่นเกมอย่างเดียวซึ่งพ่อก็ได้มีการบ่นบ้างแต่ลูกก็ไม่เชื่อฟังกูที่โรงเรียนเคยมาตามให้ไปเรียนหนังสือแต่เด็กชายคนดังกล่าวก็ไม่ยอมไปซึ่งทั้งคุณครูและพ่อแม่ก็ไม่รู้จะทำยังไงกันดีจึงได้ปล่อยเลยตามเลยจนในที่สุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาในขณะที่แม่ของเด็กชายกำลังยืนล้างจานอยู่ 

อยู่ดีๆเด็กชายก็เดินเข้ามากอดด้านหลังของแม่แล้วก็บอกรักแม่ แล้วพอช่วงตอนค่ำๆไฟในห้องนอนของลูกชายก็ยังไม่เปิดทำให้พ่อกับแม่รู้สึกสังหรณ์ใจจึงได้พากันไปดูที่ห้องนอนของลูกพบว่าลูกฆ่าตัวตายแล้วซึ่งพ่อกับแม่บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าปกติแล้วไม่เคยเข้าไปดูว่าลูกเล่นเกมเกี่ยวกับอะไร

เพราะดูไม่รู้เรื่องอีกทั้งช่วงหลังๆมาลูกชายมักจะไม่ให้พ่อกับแม่เข้าไปวุ่นวายในห้องนอนจึงไม่เคยเข้าไปสำรวจว่าห้องนอนของลูกชายเป็นยังไงบ้างหรือเขาเล่นเกมหรือว่าทำอะไรอยู่ในห้องนอนบ้างจนมาเกิดเรื่องเศร้าสลดใจขึ้น

 

สนับสนุนโดย  สล็อต เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์

นายแพทย์ที่ยะลายืนยันแล้ว

                 ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดยะลาได้มีการนำเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณะสุขเดินสายไปตามบ้านของชาวบ้านในเขตพื้นที่ต่างต่างของจังหวัดยะลาเพื่อหาชาวบ้านที่อาจจะมีเชื้อไวรัสโควิด-19 ในร่างกายแต่ไม่รู้ตัว ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการปูพรมค้นหาผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วพบว่ามีจำนวนมากถึง 40 คนด้วยกันที่มีเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ในร่างกายโดยที่ชาวบ้านที่ติดเชื้อไม่ทราบเพราะไม่ได้แสดงอาการอะไรเลย

ซึ่งทางสาธารณะสุขของจังหวัดยะลาได้มีการส่งเรื่องมาที่กระทรวงสาธารณะสุขที่กรุงเทพเพื่อเป็นการอัพเดทจำนวนผู้ติดเชื้อปรากฏว่า ทางกระทรวงสาธารณะสุขไม่เชื่อจำนวนผู้ติดเชื้อที่ทางยะลาแจ้งมา เพื่อยอดมีสูงมากจนผิดปกติ จึงได้มีการประสานงานให้ทางสาธารณะสุขของจังหวัดยะลาทำการตรวจสอบคนที่ติดเชื้อไวรัสทั้งหมด 40 คนใหม่อีกครั้ง

เพราะเกรงว่าครั้งแรกที่มีการตรวจอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจอาจจะไม่ได้มาตรฐานทำให้ผลตรวจอาจจะออกมาได้อย่างไม่ถูกต้องแม่นยำมากนัก ซึ่งในวันนี้ทางแพทย์ของสาธารณะสุขจังหวัดของจังหวัดยะลาได้ออกมายืนยันแล้วว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสทั้ง 40 คนป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19  แน่นอน เพราะมีการตรวจพบว่ามีผลออกมาเป็นบวกเรียบร้อยแล้ว

  ซึ่งในตอนนี้ทั้ง40 คนยืนยันได้แล้วว่าเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19  ซึ่งเมื่อยืนยันแน่นอนแล้วว่า 40 คนป่วยติดเชื้อแน่แน่ ก็ต้องมาดูกันว่าทั้ง 40 คนนั้น ติดต่อกับใคร ใกล้ชิดกับใครบ้าง ซึ่งต้องย้อนหลังไปถึง 14 วันด้วยกันซึ้งคาดการณ์กันว่าจำนวนผู้ที่เคยใกล้ชิดกับคนที่ติดเชื้อไวรัสทั้ง 40 คนนี้น่าจะมีจำนวนไม่น้อยกว่าคนร้อยคนขึ้น ไป 

ทั้งนี้จากการสำรวจข้อมูลเพิ่มเติมจากคนที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พบว่ากลุ่มคนที่มีเชื้อไวรัสส่วนใหญ่นั้น มีการเดินทางมาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย หรือบางคนอาจจะมีการกลับมาจากต่างประเทศ และมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่มีการติดต่อกันภายในชุมชนของตัวเอง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขจังหวัดยะลาจะมีการซักฟอกประวัติอย่างละเอียด ถึงการเดินทางไปไหนมาไหนของผู้ป่วยทั้ง 40 คน

เพื่อให้ได้ข้อมูลให้ได้มากที่สุดว่ามีใครที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อจากบุคคลทั้ง 40 คนนี้หรือไม่  เพราะตามสถิติแล้วหากผู้ป่วยมีหนึ่งคน อย่างน้อยพวกเขาต้องไปสัมผัสคนอื่นอีกจำนวนน้อยสุดก็ประมาณ 10 คน หรืออาจจะมีมากกว่านั้น ซึ่งหากมีผู้ป่วยมากถึง 40 คนก็ต้องคุณจำนวนคนที่มีความเสี่ยงเข้าไปอีก 

 

 

ขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  sa gaming เข้าสู่ระบบ

ดราม่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนมาแจกโจ๊กยังไม่จบ

            ยังเป็นกระแสร้อนแรงไม่จบจากกรณีที่มีพลเมืองดีต้องการช่วยเหลือชาวบ้านด้วยกันที่จังหวัดนครปฐมออกมาทำอาหารแจกชาวบ้านในช่วงเย็นเป็นประจำทุกวันซึ่งเธอบอกกล่าวกับทางนักข่าวว่าเธอทำแบบนี้มาแล้ว 6 วันและวันนี้คือเข้าวันที่ 7 ที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุมและยึดถุงโจ๊กทั่วไปจำนวน 250 ถุงโดยภายหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโจ๊กของเธอไปนั้น

ได้นำเจ้าของเธอไปให้กับทางเจ้าหน้าที่ขับรถตะเวนแจกให้กับชาวบ้านซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับเจ้าของโจ๊กเป็นอย่างมากโดยเธอมองว่าคนที่มายืนต่อแถวรอการรับโจ๊กจากเธอนั้นมีมากมายเกือบ 300 ชีวิตพวกเขาเหล่านั้นต้องมายืนรอเข้าแถวเพียงแค่ต้องการโจ๊กถุงเดียวเพื่อไปประทังชีวิตแต่พวกเขากลับไม่ได้รับโจ๊กในขณะที่ทางเทศบาลนำโจ๊กของเขาไปแจกจ่ายประชาชนที่อยู่ตามบ้านเรือนทำให้เจ้าของโจ๊กรู้สึกเสียใจมากเพราะเขาสงสารคนที่ต้องเดินทางออกมาจากบ้านเพียงแค่ต้องการจะมารับโจ๊กที่มีคนนำบริจาคให้ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้หลังจากที่ทางเทศบาลมีการบริจาคโจ๊กให้กับชาวบ้าน

ก็ได้มีการถ่ายรูปนำไปโพสต์ในเพจของเทศบาลเองหลังจากที่ประชาชนทราบข่าวชาวโซเชียลต่างก็พากันไปถล่ม Page ของเทศบาลเพราะทุกคนต่างก็ไม่พอใจกับวิธีการที่เทศบาลและที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหลายคนมองว่าจากรูปภาพที่ลูกสาวของหญิงพลเมืองดีที่นำโจ๊กมาบริจาคให้กับชาวบ้านนั้นถ่ายลงสื่อโซเชียลจะเห็นได้ว่าชาวบ้านแต่ละคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการที่ยืนรอเว้นระยะห่างกันประมาณเมตรถึง 2 เมตรโดยยังมีภาพของลูกสาวของเจ้าของโจ๊กคอยวัดอุณหภูมิไข้และเทเจลล้างมือให้กับชาวบ้านที่มีรอรับโจ๊ก

ซึ่งจะเห็นได้ว่าการกระทำเช่นนี้ไม่ได้เป็นการรวมกลุ่มกันจนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อได้ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะมีการผิด  พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ในเรื่องของการรวมตัวกันของประชาชนแต่ในสถานการณ์แบบนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เทศบาลควรจะมีความเห็นอกเห็นใจกับชาวบ้านที่อุตส่าห์ออกมารอรับของบริจาคทั้งๆที่อากาศร้อนโดยอาจจะอนุโลมให้ในครั้งนี้แทนที่จะยึดของกลางแล้วนำไปบริจาคเองที่สำคัญที่ดราม่ายังคงร้อนแรงอยู่เนื่องจากว่าลูกสาวของเจ้าของถุงโจ๊กนั้นได้แจ้งกับทางสื่อโซเชียลว่าคุณแม่ของเธอกำลังจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเกี่ยวกับการทำผิด พ.ร.ก. ฉุกเฉินเนื่องจากนำของมาแจกในครั้งนี้อีกด้วย

ซึ่งเธอมองว่าการที่คนมีจิตใจดีต้องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแต่กลับจะต้องมาโดนฟ้องร้องแบบนี้นั้นถือว่าไม่แฟร์ เป็นอย่างมากซึ่งหลายคนมองว่าหากการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแล้วต้องมาโดนคดีความแล้วจะมีคนดีที่ไหนอยากจะออกมาช่วยเหลือคนอื่น

 

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันบอลฝากขั้นต่ำ 100

ตลึงหนักมาก สาวติดไวรัสโควิด-19

ตลึงหนักมาก สาวติดไวรัสโควิด-19  ทั้งที่อยู่บ้านตลอด ตรวจสอบเชื้อไวรัสมาจากถุงใส่ของตอนสั่ง เดลิเวอรี่

            มีรายงานข่าวต่างประเทศซึ่งมาจากประเทศซึ่งมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกมารายงานว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่าราเชลเธอได้ออกมาบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุผลที่เธอต้องติดเชื้อไวรัสโควิด-19ทั้งที่ตัวเธอเองนั้นอยู่แต่กลับบ้านตลอด    ซึ่งเธอยืนยันว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาประมาณ 3 อาทิตย์เธอไม่เคยเดินทางออกจากนอกบ้านของเธอเลยแต่เธอกลับตรวจพบว่าเธอติดเชื้อไวรัสโควิด-19

ซึ่งเหตุผลที่เธอติดเชื้อไวรัสนั้นมาจากถุงที่ใช้ใส่สินค้าเวลาที่เธอสั่งของเดลิเวอรี่มาส่งที่บ้านเธอเชื่อว่าอาสาสมัครที่นำของมาส่งนั้นน่าจะติดเชื้อไวรัสโควิด-19แล้วจับถุงแต่สิ่งของมาส่งให้เธอโดยที่พวกเขาไม่ได้สวมถุงมือป้องกันการติดเชื้อหรือการแพร่เชื้อทำให้ตัวเองถึงแม้ว่าจะอยู่ในบ้านซึ่งถือว่าจะมีความปลอดภัยอย่างมากแต่ทำให้ติดเชื้อได้ โดยราเชล  ได้กล่าวว่าสำหรับตัวเธอนั้นสุขภาพร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้วเนื่องจากเธอมีปัญหาเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ซึ่งถือได้ว่าร่างกายของเธอมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ง่ายมาก

ดังนั้นเธอจึงหาข้อมูลวิธีการดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19มาโดยตลอดทั้งดูข้อมูลจากทางอินเทอร์เน็ตและยังขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้โดยตรงซึ่งเธอปฏิบัติตามทุกขั้นตอนอย่างเคร่งครัดเธอเองใส่หน้ากากอนามัยล้างมือตลอดเวลากับตนเองอยู่แต่ในบ้านโดยเธอไม่ติดต่อโลกภายนอกเลยซึ่งเธอจำได้ว่าตลอดระยะเวลา 3 อาทิตย์ที่เธอกลับตัวอยู่บ้านนั้นเธอออกจากบ้านไปแค่ครั้งเดียว

เพื่อไปซื้อยาและที่สำคัญถึงแม้จะอยู่ในบ้านเธอก็ยังมีการดูแลตัวเองอย่างเต็มที่ด้วยการเว้นระยะห่างระหว่างกันซึ่งเธอและสามีของเธอก็นอนกันคนละห้องเป็นการชั่วคราวเพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวเองติดเชื้อไวรัสโดยเธอมีการย้อนข้อมูลตั้งแต่เธอกักตัวเองอยู่ในบ้านก็คือเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 เดือนมีนาคมเธอเดินทางออกนอกบ้านครั้งเดียวนั่นคือตอนไปซื้อยาซึ่งเป็นวันที่ 18 มีนาคมหลังจากนั้นเธอก็อยู่แต่บ้านตลอดดังนั้นผู้คนที่เธอสัมผัสและพบเธอด้วยก็จะมีแค่เพียงเภสัชกรที่ร้านขายยา 

สามีของเธอเองที่อยู่ที่บ้านร่วมกัน   และอาสาสมัครที่นำอาหารมาส่งให้เธอซึ่งแน่นอนว่าสามีของเธอไม่ได้ป่วยติดเชื้อและเภสัชกรเองก็ไม่ได้ป่วยติดเชื้อ  แต่เมื่อไม่นานนี้อาสาสมัครที่นำถุงอาหารมาส่งที่บ้านเธอนั้นตรวจพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19จึงทำให้หลังจากนั้นแค่เพียงสองวันเธอก็เริ่มมีอาการไม่สบายและอาการก็เริ่มรุนแรงขึ้น

ซึ่งตรงกับอาการของผู้ป่วยไวรัสโควิด-19  เธอจึงได้เดินทางไปตรวจร่างกายช่วยตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 และในที่สุดเธอก็พบว่าตนเองนั้นป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19จริงๆซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้สามารถเป็นอุทาหรณ์ให้กับหลายๆคนที่มีการสั่งซื้อของออนไลน์ให้มาส่งที่บ้านว่าหากจะรับของควรจะมีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไปที่ถุงของนั้นก่อนหรือควรจะใช้ถุงมือในการจับของ

 

สนับสนุนโดย  www.ufa168.co ลิงค์เข้าใช้งานค่ะ