ตำรวจจับหัวหน้าอุทยานน้ำตกหงาว เพราะชวนลูกน้องกินเหล้าโดยไม่สน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ในช่วงที่สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังไม่หายไปนี้ทางรัฐบาลเองก็ยังคงมีการออกพรกฉุกเฉินออกมาเพื่อให้ควบคุมสถานการณ์ไม่ให้คนไปแออัดกันรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงในการที่จะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ซึ่งการประกาศพรกฉุกเฉินนี้นั่นรวมหมายถึงว่า แผนที่ไปรวมตัวกันอยู่ณจุดใดจุดหนึ่งเช่นไปรวมตัวกันอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งไม่ใช่บ้านของตนเองนั้นก็ถือว่าเป็นการทำผิดประกอบเช่นเดียวกันโดยเมื่อวันที่ 24 เมษายนปีพศ. 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการร้องเรียนเข้ามาว่ามีผู้กระทำผิดประกอบเฉินอยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว
ซึ่งเมื่อทางเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงตรงแถวบริเวณบ้านพักของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติก็พบกลุ่มเจ้าหน้าที่กำลังตั้งวงกินเหล้าและปิ้งย่างกันอย่างสนุกสนานเมื่อทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างก็พากันตกใจซึ่งในขณะนั้นมีการรวมตัวกันอยู่ทั้งหมด 8 คนโดยแบ่งผู้ชายออกเป็น 4 คนผู้หญิง 4 คน
โดยมีหัวหน้าอุทยานน้ำตกหงาวเป็นผู้รับว่าเป็นคนชวนลูกน้องให้มานั่งกินเหล้าด้วยกัน ซึ่งคนที่แจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาดูพื้นที่ในอุทยานแห่งชาติในครั้งนี้ก็คือชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นโดยพวกเขาบอกว่าในช่วงเวลากลางคืนทางเจ้าหน้าที่อุทยานมีการตั้งวงกินเหล้ากันและมีการส่งเสียงดังรบกวนทำให้ชาวบ้านไม่ได้หลับนอนจึงต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจลงมาตรวจสอบพื้นที่หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการส่งชุดตำรวจกลุ่ม 1 ลงมาคอยซุ่มดูบ้านพักของพนักงานอุทยานแห่งชาติ
ซึ่งรอดูได้ประมาณถึงช่วงประมาณสัก 21:00 นก็พบว่ากลุ่มคนงานได้ออกมารวมตัวกันตั้งวงกินเหล้าและส่งเสียงดังและเมื่อเจ้าหน้าที่เห็นแล้วว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายจริงจึงได้มีการแสดงตัวเข้าจับกุมซึ่งขณะที่มีการจับกุมนั้นพบว่าเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติจำนวน 8 คนที่นั่งกินเหล้ากันนั้นไม่มีใครสนใส่หน้ากากอนามัยเลยและบางคนก็ยังมีอาการเมาสุราทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการควบคุมตัวไปที่ สภ. ราชกรูด
และเหตุการณ์ในครั้งนี้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาวเป็นผู้รับผิดชอบเนื่องจากว่าเป็นคนชวนลูกน้องมากินเองเนื่องจากว่าเห็นว่าช่วงนี้อุทยานแห่งชาติมีการปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวที่นี่แล้วคุณคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทุกคนจึงได้มีการออกมากินเลี้ยงสังสรรค์กันตามปกติซึ่งการกระทำครั้งนี้ถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมายโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการส่งให้ทางศาลไต่สวนพิจารณาคดีอีกครั้งหนึ่ง
สนับสนุนเรื่องราวโดย gclub ฟรี 100