รักแม่ในทางที่ผิด  ลูกชายซื้อยาไอซ์ให้แม่เสพเพราะสงสารแม่กลัวแม่ลงแดงตาย

        ที่จังหวัดชลบุรีเมื่อวันที่ 20 เดือนมกราคมปี พ.ศ. 2564     เจ้าหน้าที่ ของสถานีตำรวจนาจอมเทียน  ได้มีการหนูไปที่บ้านเช่าหลังหนึ่งที่อยู่ในอำเภอสัตหีบและเข้าจับกุมตัว   แม่ลูกคู่หนึ่งในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง  โดยในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมนั้นตรวจสอบพบหลักฐานครบถ้วนทั้งยาไอซ์และอุปกรณ์การเสพ

              หลักการพูดคุยกับแม่ลูกคู่ดังกล่าวพบว่าผู้เป็นแม่นั้นมีการเสพยาเสพติดมานานถึง 34 ปีแล้วโดยเธอล่ะว่าเธอติดยาเสพติดมาตั้งแต่สมัยที่เธออายุเพียงแค่ 20 ปีเท่านั้น   และเธอยังให้สัมภาษณ์กับนักข่าวอีกด้วยว่าต่อให้เธอจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับอีกกี่ครั้งและต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งเธอไปเลิกยาเสพติดหรือเข้ารับการบำบัดอีกกี่ครั้งก็ตามเธอยืนยันว่าเมื่อเธอออกจากคุกและออกจากสถานบำบัดแล้วเธอก็จะกลับมาเสพยาเสพติดใหม่อย่างแน่นอนซึ่งเธอจะเสพยาเสพติดจนกว่าเธอจะเสียชีวิตนั่นเอง

           ในขณะที่ลูกชายของเธอนั้นให้การยอมรับว่าตัวเขาเองนั้นก็ติดยาเสพติดเช่นเดียวกันและตัวเขาเองก็เป็นคนที่ไปหาซื้อยาเสพติดประเภทยาไอซ์มาให้แม่ของตนเองศศโดยเขาได้บอกว่าเขารู้สึกสงสารแม่ของเขามากเพราะทุกครั้งที่แม่ของเขาไม่ได้เสพยาเสพติดมีอาการลงแดงและทุรนทุรายซึ่งเขามองว่าเป็นอาการที่ทรมานเป็นอย่างมากดังนั้นด้วยความรักแม่เขาจึงได้หาซื้อยาเสพติดมาให้แม่เสร็จเป็นประจำทุกวันนั่นเอง

         อย่างไรก็ตามทางด้านลูกชายของผู้ต้องหายังระบุอีกด้วยว่าในขณะที่อยู่ในเรือนจำนั้นเขาก็คงคิดถึงแม่ของเขาเป็นอย่างมากเพราะโดยปกติแล้วพวกเขาทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันสองคนแม่ลูกและเขาคิดว่าถ้าหากว่าพ้นโทษออกมาเขาก็จะกลับมาอยู่กับแม่และปฏิบัติแม่เหมือนเดิมส่วนเรื่องของการที่มีการซื้อยาเสพติดให้แม่เสร็จนั้นเขามองว่ามันคือการแสดงความรักต่อแม่ในรูปแบบหนึ่งของตัวเขาเอง

         อย่างไรก็ตามหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและนักข่าวได้ยินเรื่องราวดังกล่าวก็ได้มีการอบรมสั่งสอนลูกชายถึงพฤติกรรมที่มีการแสดงความรักต่อแม่เกี่ยวกับการซื้อยาเสพติดมาให้แม่เสพว่าพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้เป็นการรักแม่อย่างแท้จริงรักแม่จริงๆก็ควรจะต้องมีการดูแลแม่ในรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่เป็นการส่งเสริมให้แม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพราะอย่างที่รู้กันดีว่ายาเสพติดมีผลต่อสุขภาพร่างกายและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

 

 

สนับสนุนโดย.  สมัครเอเย่นต์ ufabet

ลูกจ้างแสบขโมยของในร้านออกไปขาย อ้างเงินเดือนไม่พอใช้ เพราะต้องเลี้ยงลูกหลายคน

                เมื่อวันที่ 28 เดือนกุมภาพันธ์ปีพศ 2564   เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจพัฒนานิคมได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านเฮียนนท์ล้อซิ่ง   ในช่วงเวลาประมาณ 9:00 น ว่าให้เข้าไปทำการจับกุมขโมย   ซึ่งขโมยทรัพย์สินภายในร้านออกไปจำหน่ายโดยทางร้านนั้นได้มีการจับตัวขโมยได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

       หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจึงรีบไปที่ร้านเฮียนนท์ล้อซิ่งทันทีซึ่งเมื่อไปถึงนั้นก็พบว่ามีเจ้าของร้านและลูกจ้างร้านกำลังควบคุมตัวหญิงสาวคนหนึ่งอายุประมาณ 49 ปีสอบถามชื่อทำให้ทราบว่าเธอชื่อนางสาวไพร ซึ่งเธอก็คือหนึ่งในลูกจ้างที่ทำงานอยู่ในร้านเฮียนนท์ล้อซิ่งนั้นเอง

       จากการให้ข้อมูลของเจ้าของร้านทำให้ทราบว่านางสาวพรายนั้นทำงานอยู่ที่ร้านดังกล่าวได้ประมาณเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้นซึ่งนางสาวไพไม่ใช่คนในพื้นที่จังหวัดชลบุรีแต่เป็นคนจังหวัดตราดและมาหางานทำในพื้นที่จังหวัดชลบุรีนั่นเองโดยทางเจ้าของร้านให้ข้อมูลว่าในช่วงเช้าของวันที่เกิดเหตุนั้นเองมีลูกจ้างคนหนึ่งได้เดินไปพบอะไหล่รถยนต์ถูกซ่อนเอาไว้ในพงหญ้าด้านข้างของร้านจึงได้กลับมาเล่าให้เจ้าของร้านให้ฟัง

          หลังจากนั้นเจ้าของร้านจึงได้มีการสั่งให้เช็คสต๊อกภายในร้านจึงพบว่าสินค้าภายในร้านหายไปเป็นจำนวนมากซึ่งมีตั้งแต่เบรคผ้าใบ  รวมถึงล้อแม็กและโช้กอัพเป็นต้น  มีการคำนวณสินที่หายไปนั้นคิดเป็นมูลค่าความเสียหายมากกว่า เจ็ดหมื่น บาทเลยทีเดียว   หลังจากนั้นจึงได้ให้คนงานไปนำชิ้นส่วนอะไหล่ที่พบอยู่ตามพงหญ้าเข้ามาภายในร้าน

         และได้มีการสอบถามคนในร้านเกี่ยวกับสินค้าที่หายไปในที่สุดนางสาวไพรก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือขโมยสินค้าภายในร้านออกไปซุกซ่อนบริเวณรอบๆร้านเองทางเจ้าของร้านจึงได้มีการโทรตามเจ้าหน้าที่ตำรวจมาให้มาที่ร้านเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับนางสาวไพร

         จากการสอบสวนจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้ทราบว่าสาเหตุที่นางสาวไพร ต้องขโมยทรัพย์สินภายในร้านไปขาย  นั่นก็เพราะว่าเงินเดือนที่เธอได้รับนั้นไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตประจำวันเนื่องจากว่าเธอนั้นต้องเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวซึ่งในครอบครัวของเธอตอนนี้เธอมีลูกยังเล็กอยู่ 4 คนด้วยกัน  

          และที่สำคัญสามีของเธอนั้นไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากว่าในขณะนี้สามีของเธอมีสภาพกลายเป็นคนพิการดังนั้นเธอจึงเป็นเสาหลักของครอบครัวที่เป็นคนหาเงินเลี้ยงดูครอบครัวเป็นแค่คนเดียวเท่านั้นและด้วยเงินเดือนที่ได้รับปากร้านที่เธอทำงานนี้ไม่เพียงพอเธอจึงต้องหาเงินด้วยการขโมยของภายในร้านออกไปขายนั่นเอง 

         ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนางสาวไพร ไปดำเนินคดี

 

สนับสนุนโดย    gclub ทดลองเล่น

ผู้โดยสารหัวร้อนมาช้า 30 วิเจ้าหน้าที่ไม่ให้ขึ้นเครื่องอาละวาดทำลายคอมพิวเตอร์สนามบินดอนเมืองพัง 

           มีคนแชร์ Twitter ในโลกออนไลน์ซึ่งมีการแชร์เป็นคลิปวีดีโอโดยระบุว่าได้มีการถ่ายเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 เดือนสิงหาคมปีพศ2563 โดยในคลิปมีการระบุว่าสถานที่เกิดเหตุนั้นคือที่สนามบินดอนเมืองซึ่งถ้าเปิดคลิปดูจะเห็นว่าในคลิปนั้นจะมีผู้หญิงกับผู้ชายคู่หนึ่งกำลังโวยวายเสียงดังใส่เจ้าหน้าที่ที่สนามบินเลยจะได้ยินประโยคที่ว่าพวกเขานั้นมาช้าประมาณ 30 วินาทีเท่านั้น

แต่เจ้าหน้าที่นั้นไม่ให้พวกเขาขึ้นเครื่องทำให้ทั้งชายและหญิงคู่นั้นเกิดความไม่พอใจชี้มือต่อว่าพนักงานที่สนามบินอีกทั้งยังมีการทำลายข้าวของโดยฝ่ายชายทุ่งคอมพิวเตอร์ของเจ้าหน้าที่สนามบินได้รับความเสียหายโดยในข้อความที่ถูกโพสต์ลงในทวิตเตอร์นั้นยังมีการระบุอีกด้วยว่าสามีภรรยาคู่นี้มาขึ้นเครื่องไม่ทันช้ากว่าที่กำหนด 30 วินาที

และพอเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่สามารถขึ้นได้แล้วให้ซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่ก็เกิดความไม่พอใจโดยฝ่ายชายนั้นเป็นถึงอดีตข้าราชการตำรวจอีกทั้งยังมีการระบุเหตุการณ์ด้วยว่าเกิดช่วงเวลาประมาณ 18:00 น.  หลังจากข้อความนี้ได้หยุดแชร์ออกไปทำให้คนในโลกออนไลน์ต่างก็เข้ามาพูดถึงเหตุการณ์ครั้งนี้กันเป็นจำนวนมาก

ซึ่งนอกจากจะมีการใช้ในทวิตเตอร์กันแล้วยังถูกแชร์ส่งต่อไปยัง Facebook อีกด้วยและได้มีเพจเพจหนึ่งใน Facebook ได้มีการแชร์ให้กับลูกเพจซึ่งมีจำนวนผู้ติดตามหลายแสนคนได้เข้าไปดูทำให้ข่าวนี้ยิ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมากนั่นเอง และผู้คนส่วนใหญ่ก็เข้ามาต่อว่าชายหญิงคู่นี้ที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมอีกทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นก็เกิดจากตัวผู้โดยสารเองไม่ได้เกิดจากเจ้าหน้าที่ของสนามบิน

ซึ่งคนส่วนใหญ่ต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าเวลาที่เราจะเดินทางโดยเครื่องบินนั้นผู้โดยสารจะต้องมารอที่สนามบินเพราะเจ้าหน้าที่สนามบินจะปิดให้บริการตรงตามเวลาและไม่สามารถเผื่อเวลาให้ได้ซึ่งเหตุการณ์เกี่ยวกับเรื่องของผู้โดยสารมาช้าแล้วขึ้นเครื่องไม่ทันนั้นเกิดเหตุการณ์แบบนี้บ่อยครั้งและทุกครั้งก็จะมีการออกมาแชร์ถึงขั้นตอนการเดินทางไว้ที่สนามบินว่าควรจะเผื่อเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง

เพื่อให้ทันเครื่องบินเพราะการเดินทางโดยเครื่องบินนั้นจะต้องเสียเวลาหลายขั้นตอนกว่าจะสามารถขึ้นเครื่องได้นั่นเองดังนั้นเหตุการณ์นี้คนในโลกออนไลน์จึงไม่มีใครที่จะเข้าข้างชายหญิงผู้ที่เป็นผู้โดยสารเลยต่างก็ออกมาพูดถึงหน้าที่การงานของฝ่ายชายได้ว่าเป็นถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจควรจะรักษากฎระเบียบของข้าราชการอย่างเคร่งครัดและยังเรียกร้องให้หน่วยงานที่ดูแลชายที่โวยวายที่สนามบินดอนเมืองในครั้งนี้ให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อลูกน้องของตนเองด้วย

 

สนับสนุนโดย  ufabet

ปัญหาสวัสดิการของคนที่มีรักข้ามเพศ

           มีเรื่องเล่าจากหญิงข้ามเพศคนหนึ่งซึ่งเธอนั้นได้ออกมาโพสต์ระบายความรู้สึกของตัวเองผ่านทาง facebook ส่วนตัวเนื่องจากว่าเธอกำลังจะสูญเสียสามีอันเป็นที่รักของเธอไปจากการป่วยด้วยโรคมะเร็งแต่เธอนั้นไม่สามารถที่จะช่วยเหลือสามีของเธอได้โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เธอได้เล่าถึงปัญหาที่เกิดขึ้นของเธอว่า 

            ตัวเธอนั้นทำงานรับราชการเป็นคุณครูสอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งตัวเองนั้นมีสวัสดิการของรัฐที่จะสามารถเบิกจ่ายเวลาเจ็บป่วยไม่สบายได้และสวัสดิการของเธอนั้นยังครอบคลุมไปถึงคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่สามีหรือรูปและปัญหาของเธอก็คือเมื่อสามีของเธอนั้นได้ตรวจไปพบว่าตนเองเป็นโรคมะเร็งในระยะสุดท้ายสามารถที่จะรักษาให้หายหรือชะลอการเสียชีวิตลงได้เพียงแต่จะต้องมีการใช้ตัวยาตัวหนึ่งในการรักษาอาการซึ่งตัวยานี้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายอยู่ที่วันละ 4,000 บาทดังนั้นถ้าเธอต้องใช้ยาตัวนี้ทุกวันเธอจะต้องจ่ายเงินทั้งหมดเดือนละ 120000 บาท

           ซึ่งแน่นอนว่าด้วยฐานะอาชีพครูอย่างเธอนั้นไม่สามารถที่จะหาเงินก้อนใหญ่ขนาดนี้มาจ่ายได้อย่างแน่นอนแต่ถ้าหากว่าเธอใช้สิทธิ์สวัสดิการรัฐในฐานะที่เธอเป็นคุณครูและเธอใช้สิทธิ์ของการช่วยเหลือสามีของตนเองก็สามารถเบิกมาเป็นค่าใช้จ่ายใต้แต่ปัญหาของคุณครูข้ามเพศคนนี้ก็คือเธอไม่สามารถจดทะเบียนกับสามีของเธอได้เนื่องจากว่าเธอและสามีนั้นเป็นคนเพศเดียวกันและนี่เป็นปัญหาใหญ่ของคนที่มีความรักข้ามเพศเพราะต่อให้พวกเขาจะแต่งงานกันแต่ว่าก็ไม่สามารถที่จะเบิกค่าใช้จ่ายมาให้กับคู่สมรสของตนเองได้นั่นเอง

       และสิ่งที่เธอเสียใจมากที่สุดในตอนนี้ก็คือเธอไม่สามารถช่วยเหลือสามีของเธอได้เลยขณะนี้อาการของสามีของเธอนั้นลดลงตามลำดับเราเพียงแค่ว่าสามีของเธอจะจากไปในช่วงเวลาไหนเท่านั้นเอง   และขณะนี้เธอรู้สึกประมาณใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

         อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเป็นปัญหาที่กลุ่มชายรักชายหรือว่าหญิงรักหญิงทุกคนจะต้องประสบปัญหาแบบนี้ด้วยกันทุกคนเนื่องจากว่าประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายที่จะเอื้ออำนวยให้ชายกับชายที่รักกันหรือผู้หญิงกับหญิงที่รักกันแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายและสามารถใช้สิทธิ์ได้นั่นเอง

          และสำหรับเรื่องนี้สามารถนำไปเป็นข้อคิดให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องของศิษย์ของข้าราชการว่าสมควรที่จะมีการแก้กฎหมายออกมาใหม่หรือไม่เพราะอย่างไรแล้วไม่ว่าจะเป็นชายรักชายหรือว่าหญิงรักหญิงพวกเขาต่างก็เป็นมนุษย์เหมือนกันและเกิดจากความรักเหมือนกันเหมือนกับที่เป็นการแต่งงานระหว่างชายหญิงนั่นเองดังนั้นกดตรงนี้ก็คงจะแบบเสมอภาค กันน่าจะเป็นการดีที่สุด

 

สนับสนุนโดย  gclub