เพื่อนเจ้าบ่าวแสบ  ขโมยเงินงานแต่ง แถมยังใจดีเอาเงินให้ยืม

          เมื่อวันที่ 12 เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2565  เว็บไซต์ชื่อดังของต่างประเทศได้เปิดเผยเรื่องราว คำพิพากษาของศาลในประเทศจีน  จากกรณีที่มีชายคนหนึ่งถูกแจ้งข้อหาและถูกจับกุมในข้อหาขโมยเงินในงานแต่งงานของเพื่อนร่วมชั้นของตนเอง  โดยเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ.  2565

ซึ่งศาลก็พิพากษาจำคุกเป็นจำนวน 1 ปี 9 เดือน  นอกจากนี้ยังให้คนร้ายชดเชยเงินให้กับเจ้าบ่าวเป็นจำนวนทั้งสิ้น 3,000 หยวนอีกด้วย 

         สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนเกิดเป็นคดีความนั้นเกิดขึ้นเมื่อชายคนหนึ่งนามสกุลโจว ได้จัดงานแต่งงานที่โรงแรมแห่งหนึ่ง  โดยมีการชวนเพื่อนร่วมชั้นเรียนมาร่วมในงานแต่งงานด้วยและหนึ่งในนั้นก็คือชายนามสกุลซ่ง  ซึ่งเป็นคนร้ายในคดีดังกล่าว

  โดยระหว่างที่ทุกคนของทางบ้านเจ้าบ่าวและเจ้าสาวไปร่วมพิธีแต่งงานที่โรงแรมนั้นปรากฏว่าชายสกุลซ่งได้แอบลักลอบเข้าไปในบ้านของเจ้าบ่าวและเข้าไปภายในห้องนอนของพ่อเจ้าบ่าว  หลังจากนั้นก็ค้นหาทรัพย์สินได้เงินมาจำนวนทั้งสิ้น 25000 หยวน 

            หลังจากที่ใช้สกุลซ่งขโมยเงินจากบ้านของเจ้าบ่าวเสร็จเรียบร้อยเขาก็เดินทางไปยังโรงแรมที่จัดงานและนำเงินที่ขโมยจำนวน 500 หยวน

ใส่ซอง ให้กับเจ้าบ่าวเพื่อเป็นของขวัญอีกด้วยนอกจากนี้ระหว่างที่มีการจัดงานนั้นเจ้าบ่าวจำเป็นที่จะต้องมีการใช้เงินสกุลซ่ง ยังใจดีให้เงินเจ้าบ่าวยืมอีกเป็นจำนวนเงิน 5000 หยวน ซึ่งเงินที่ยืมนั้นก็คือเงินที่ขโมยมานั่นเอง

          อย่างไรก็ตามหลังจากเสร็จสิ้นพิธีงานแต่งงานนั้นครอบครัวของฝ่ายเจ้าบ่าวจึงมารู้ภายหลังว่าเงินที่  เซ็กซี่ บาคาร่า ขั้นต่ำ10บาท    เก็บไว้ภายในบ้านนั้นหายไปจึงได้แจ้งความซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ได้มีการเข้าไปสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายจนในที่สุดก็ทราบว่าคนร้ายที่ขโมยเงินดังกล่าวไปก็คือเพื่อนของเจ้าบ่าวซึ่งเป็นชายสกุลซ่งนั่นเอง  

       ประวัติของชายสกุลส้มที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลมานั้นปรากฏว่าเขามีนิสัยชอบขโมยมีประวัติการก่อเหตุอาชญากรรมและต้องติดคุกมาเป็นจำนวนถึง 2 ครั้งแล้วก่อนที่จะมีการมาร่วมงานแต่งงานของเพื่อนร่วมชั้นเรียนก็เพิ่งติดคุกไปเมื่อช่วง ปีพ.ศ.2563 และเพิ่งจะออกจากคุกมาไม่นานนี้เอง 

        จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมีการแชร์กันออกไปในโลกออนไลน์ทำให้ผู้คนต่างออกมาแสดงความคิดเห็นกันเป็นอย่างมากด้วยหลายคนนั้นสงสัยว่าทำไมชายสกุลซ่งถึงได้มีพฤติกรรมขโมยแม้แต่เงินของเพื่อนร่วมชั้นเรียนนอกจากนี้หลายคนยังเชื่อว่าถึงแม้ว่าชายหนุ่มรายนี้จะออกจากคุกมาแล้วแต่นับจากนี้เป็นต้นไปเขาคงไม่มีเพื่อนคนไหนที่อยากจะคบค้าสมาคมกับเขาอีกแล้วเพราะไม่สามารถไว้ใจชายสกุลซ่งได้อีกต่อไปนั่นเอง 

หนุ่มโพสต์แฉ กินอาหารจีนบนห้างหรู เจอปีเตอร์ โผล่ในติ่มซำ 

          สำหรับแนวความคิดของคนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างประเทศก็ตามทุกคนค่อนข้างที่จะมีความเชื่อมั่นว่าร้านอาหารหรูๆหรือร้านอาหารที่อยู่ในห้างหรู มักจะมีการบริการที่ดีและอาหารนั้นจะต้องมีความสะอาด  ซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบกับร้านอาหารข้างทางที่หลายคนมองว่าสกปรก  ดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่จึงมักนำจ่ายเงินแพงเพื่อที่จะได้กินอาหารที่มั่นใจว่าสะอาด  และได้รับการบริการจากพนักงานที่ดี

  

         อย่างไรก็ตามงวดที่ 12 เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2565 ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งได้มีการแชร์ประสบการณ์การเข้าไปทานอาหารในร้านอาหารจีนแห่งหนึ่ง

ซึ่งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าที่มีความหรูหราโดยห้างสรรพสินค้าดังกล่าวนั้นอยู่ใจกลางกรุงเทพฯเลยทีเดียวโดยชายหนุ่มรายนี้ได้มีการพาครอบครัวไปกินอาหารมื้อเที่ยง  

             โดยชายหนุ่มรายนี้เจาะจงที่จะเลือกอาหารภายในห้างหรูเพราะมั่นใจว่าจะได้รับการบริการที่ดีและมองว่าร้านอาหารในห้างนั้นจะต้องมีความสะอาดและรสชาติ

ต้องอร่อยอย่างแน่นอนแต่เขาต้องเจอกับเรื่องราวที่ไม่น่าประทับใจและรู้สึกช็อคกับร้านอาหารดังกล่าวเป็นอย่างมากจนต้องออกมาโพสต์แฉพฤติกรรมของร้านอาหารและยังมีการฝากไปยังถึงผู้บริหารของร้านอาหารให้ดูแลร้านและอบรมการให้บริการของพนักงานให้ดีมากกว่านี้ 

         สำหรับเหตุการณ์ที่ใช้เจ้าของโพสต์ระบุว่าเขาและครอบครัวได้ไปทานอาหารจีนภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง

โดยมีการเลือกอาหารหนึ่งในนั้นคือ ติ่มซํา  อย่างไรก็ตามเมื่อมีการเปิดภาชนะขึ้นมาปรากฏว่าในจานติ่มซำนั้น

นอกจากจะมีติ่มซำวางอยู่แล้วยังมีปีเตอร์ตัวใหญ่นอนเสียชีวิตอยู่ข้างติ่มซำอีกด้วย  เจ้าของโพสต์จึงได้มีการเรียกพนักงานและผู้จัดการร้านมาพูดคุยซึ่งทางด้านผู้จัดการร้านก็ได้มีการขอโทษพร้อมกับชดเชยความรู้สึกให้โดยเป็นส่วนลดค่าอาหาร 20%

         อย่างไรก็ตามสิ่งที่เจ้าของโพสต์ไม่พอใจมากก็คือคำตอบของผู้จัดการร้านที่ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับปีเตอร์ที่ไปโผล่ในจานติ่มซำโดยระบุว่าที่ร้านได้มีการดูแลระมัดระวังแล้วแต่ยังคงมีแมลงพี่อาจจะแอบแฝงหลบอยู่ตามภาชนะซึ่งทางร้านมักจะมีการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงเป็นประจำแต่ทางร้านก็ไม่สามารถที่จะควบคุมได้ทั้งหมด  นอกจากนี้ผู้จัดการร้านยังกล่าวกับเจ้าของโพสต์ว่าจะมีการแจ้งให้พนักงานทุกคนระมัดระวังให้มากขึ้นกว่าเดิม

        สิ่งที่ทำให้เจ้าของโพสต์ไม่พอใจจนต้องออกมาโพสต์ผ่านทาง Social นั้นก็เพราะว่าร้านอาหารซึ่งอยู่ในห้างสรรพสินค้าหรูหราควรจะมีคำชี้แจงที่ดีกว่านี้เพราะผู้จัดการร้านพูดเหมือนกับเหตุการณ์ที่มีแมลงอยู่ในการอาหารของลูกค้านั้นเป็นเรื่องที่ปกติมาก  ซึ่งสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังกับร้านอาหารในห้างหรูนั้นมันไม่ควรที่จะต้องมีสิ่งแปลกปลอมหรืออะไรติดมาในอาหารของลูกค้าเลยเพราะพนักงานทุกคนควรจะต้องมีการตรวจสอบอาหารว่ามีความสะอาดหรือไม่ก่อนที่จะนำมาเสิร์ฟให้กับลูกค้า

 

สนับสนุนโดย    www.ufabet.com ลิ้งเข้าระบบ

วัยรุ่นคลั่งทำร้ายแม่ หลังจะเอาเงินไปจ่ายค่ากัญชา 400 บาทแต่แม่ไม่ให้ 

           เมื่อที่ 15 เดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2565  ที่จังหวัดชลบุรี  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. สัตหีบ  ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าที่บริเวณด้านหน้าร้านวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ตรงบริเวณริมถนนสุขุมวิท มีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบเดินไปยังจุดที่เกิดเหตุเพื่อทำการระงับเหตุทันที

           เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปถึงก็พบว่ามี ชายวัยรุ่นคนหนึ่งกำลังคุ้มคลั่งอาละวาดใส่หญิงวัยกลางคนอยู่บริเวณริมถนนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปพูดคุยและพยายามเกลี้ยกล่อมชายวัยรุ่นคนดังกล่าวจากอาการคลุ้มคลั่งที่กำลังโวยวาย อย่างไรก็ตามเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าวัยรุ่นชายคนดังกล่าวนั้นยังมีการโวยวายและคลุ้มคลั่งใส่หญิงวัยกลางคนอยู่จึงได้เชิญตัวชายวัยรุ่นไปที่โรงพักเพื่อทำการสงบสติอารมณ์ 

         จากการพูดคุยกับชายวัยรุ่นคนดังกล่าวและหญิงสาววัยกลางคนพบว่าทั้งคู่นั้นเป็นแม่ลูกกันซึ่งชายวัยรุ่นนั้นอายุ 16 ปีส่วนเหตุการณ์ที่เกิดการทำร้ายร่างกายกันบริเวณริมถนนนั้นเกิดจากการที่ผู้เป็นลูกได้ขอเงินผู้เป็นแม่จำนวน 400 บาทแต่ผู้เป็นแม่ไม่ยอมให้ทำให้ลูกและไม่พอใจจึงอาละวาด 

        จากการให้ข้อมูลของผู้เป็นแม่ระบุว่าลูกชายมาขอเงินจำนวน 400 บาทแต่ไม่ได้ระบุว่าต้องการจะเอาเงิน 400 บาทไปทำอะไรเมื่อไม่ให้ลูกชายก็มาขโมยโทรศัพท์มือถือไปทำให้ผู้เป็นแม่ต้องเรียก ลูกมาคุยพร้อมกับ อ้างว่าจะให้เงิน 400 บาท และกับการให้ลูกคืนโทรศัพท์  

          อย่างไรก็ตามหลังจากที่ลูกชายวัย 16 ปี นำโทรศัพท์มาคืนแม่ปรากฏว่าผู้เป็นแม่ได้มอบเงินให้เพียงแค่ 100 บาทเท่านั้นทำให้ลูกชายไม่พอใจจึงด่าทออาละวาดคุมข้างสายผู้เป็นแม่และมีพลเมืองดีเหตุการณ์จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

         ทางด้านลูกชายก็ได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเงิน 400 บาทไม่เพียงพอกับการใช้งานเนื่องจากว่าชายหนุ่มจะนำเงิน 400 บาทไปจ่ายหนี้ที่ติดไว้ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามถึงเหตุผลของการเป็นหนี้จึงทราบว่าเกิดจากการไปซื้อกัญชา มาเสพ และติดหนี้คนขายกัญชาอยู่ 400 บาทวัยรุ่นชายเกรงว่าคนขายกัญชาจะกระทืบจึงต้องการนำเงินไปจ่ายหนี้ที่ค้างเอาไว้ 

          นอกจากนี้วัยรุ่นชายได้ยืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายผู้เป็นแม่เพียงแค่เขย่าตัวแม่เท่านั้น  หลังจากที่วัยรุ่นชายจะสงบสติอารมณ์ได้แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการอบรม  หลังจากนั้นจึงได้ปล่อยตัววัยรุ่นชายกลับบ้าน และจะมีการประสานงานนำตัววัยรุ่นคนดังกล่าวไปบำบัดการติดกัญชาในภายหลัง

 

สนับสนุนโดย    Gclub ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

สลด ความรักของพ่อยอมตายแทนลูก ผลักลูกพ้น จนตนเองถูกดินสไลด์ทับลึก 8 เมตร 

       เมื่อวันที่ 30 เดือนเมษายน ปีพ.ศ. 2565 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ได้มีการเกิดเหตุการณ์เศร้าสลดใจเกิดขึ้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ดินสไลด์ทับคนงานที่กำลังทำงานบริเวณริมแม่น้ำมูลขายหมู่บ้านงิ้ว   โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 1 คน  แล้วมียังมีคนงานอีก 1 คนที่อาการค่อนข้างสาหัส

        จากการให้ข้อมูลของนายกิตติกรซึ่งเป็นลูกชายของผู้เสียชีวิตให้ข้อมูลว่าผู้เสียชีวิตได้นำรถแบคโฮมาขุดดินเพื่อที่จะวางท่อ PVC  ซึ่งจะเป็นการตั้งคันดินแถวบริเวณริมแม่น้ำมูล  โดยในระหว่างนั้นได้มีการขุดดินเป็นร่องลึกประมาณ 8 เมตร

           อย่างไรก็ตามในขณะที่นายกิตติกรกับเจ้าของที่ดินได้ไปช่วยกันโกยดินอยู่บริเวณท้องร่องซึ่งมีความลึก 8 เมตร

เพื่อที่จะได้ปรับหน้าดินอยู่นั้นปรากฏว่าได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่ออยู่ดีๆดินที่มีการตักขึ้นไปไว้ตรงบริเวณขอบด้านบนก็สไลด์ลงมาทับซึ่งในตอนนั้นเองผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นพ่อของนายกิตติกรได้เห็นเหตุการณ์ว่าลูกชายกำลังจะถูกดินสไลด์ทับลงมาจึงได้กระโดดลงมาช่วยแล้ว

ผลักลูกชายให้พ้นไปจากกองดินส่วนตัวของผู้เป็นพ่อเองนั้นกับหนีไม่พ้นถูกบินที่สไลด์ลงมาทับแทนนอกจากนี้เจ้าของที่ดินดังกล่าวก็ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสเช่นเดียวกัน 

      อย่างไรก็ตามนายกิตติกรหลังจากที่เห็นว่าพ่อและเจ้าของที่ดินนั้นถูกดินสไลด์ทับลงมาก็รีบโทรตามหน่วยกู้ภัยให้มาช่วยเหลือทันทีซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้ระยะเวลานานกว่า 30 นาทีจึงจะสามารถขุดเอาผู้เสียชีวิตและเจ้าของที่ดินออกมาจากร่องดังกล่าวได้ซึ่งพ่อของนายกิตติกรนั้นถูกดินทับจนไม่สามารถหายใจออกได้

ขาดอากาศหายใจตายในจุดเกิดเหตุนั้นเองส่วนทางเจ้าของที่ดินนั้นยังคงมีอาการสาหัสอยู่หายใจรวยรินซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ มีการนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการซึ่งตอนนี้ยังอยู่ ในอาการโคม่า 

         จากการให้ข้อมูลของเพื่อนบ้านเพิ่งมาดูเหตุการณ์ตรงจุดบริเวณที่เกิดเหตุได้ดูจากสภาพของการขุดร่องดินและพบว่ามีการขุดร่องดินซึ่งเป็นร่องสูงไม่ได้มีการขุดในลักษณะของมุมเสียงดังนั้นช่วงนี้มีฝนตกลงมาบ่อยอาจจะทำให้ดินนั้นมีการสลายตัวลงมาได้เพราะว่าไม่ได้มีการวางดินที่ขุดเอาไว้ในลักษณะของแนวเฉียงเมื่อมีการขุดในลักษณะของด้านบนอย่างเดียวจึงมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ดิน สไลด์ทรุดตัวลงมา 

         อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดินสไลด์แล้วทับคนงานนั้นมีอยู่บ่อยครั้งซึ่งส่วนใหญ่แล้วเกิดจากความประมาทในเรื่องของการขุดดินขึ้นไปไว้ด้านบนดังนั้นการขุดดินเป็นร่องจึงควรต้องมีการระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะช่วงฝนตกอากาศที่ดินจะสไลด์และทรุดตัวลงมานั้นจะมีสูงกว่าปกติซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อคนงานได้นั่นเอง 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย   ufabet เว็บตรง

หนุ่มแค้น สร้างศาล ให้อยู่นาน 3 ปีแต่ไม่เคยให้หวยถูกตัดสินใจเผาศาลทิ้ง 

           ตัดสินใจเผาศาลทิ้ง  เมื่อวันที่ 18 เดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2565  ได้มีคนนำคลิปการเผาบ้านทรงไทยขนาดเล็กซึ่งถูกระบุว่าบ้านทรงไทย

ดังกล่าวนั้นคือศาลที่ทางเจ้าของบ้านได้มีการนำมาตั้งเอาไว้เพื่อให้ผีที่ไม่มีที่อยู่ได้อยู่อาศัย  ส่วนคนที่จุดไฟเผาศาลดังกล่าวนั้นก็คือคนที่เป็นคนตั้งศาลและเป็นเจ้าของบ้านด้วยเช่นเดียวกันส่วนผู้โพสต์นั้นเป็นญาติของเจ้าของศาลอีกทีหนึ่ง 

       ในคลิปจะเห็นได้ว่าศาลพระภูมิซึ่งเป็นบ้านทรงไทยขนาดเล็กนั้นถูกไฟไหม้วอดเหลือเพียงแค่ซากปรักหักพังซึ่งจะเห็นได้ว่าในคลิปไม่มีการใช้น้ำจากสายยางฉีดพ่นทำให้ไฟไหม้ลุกลามไหม้ส่วนอื่นๆนอกจากนี้ผู้โพสต์ยังระบุด้วยว่าตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นผีบ้านผีเรือนหรือผีตาผียายรวมถึงผีที่ไม่มีที่อยู่อาศัย

และเคยอาศัยอยู่ในศาลพระภูมิดังกล่าวก็คงจะไม่มีที่อยู่อาศัยแล้วเพราะที่อยู่นั้นถูกเผาทิ้งไปเรียบร้อยแล้วโดยทั้งผู้โพสต์ยังระบุด้วยว่าเจ้าของศาลพระภูมิได้ต้องการเผาเพราะไม่พอใจที่ตั้งศาลมาให้อยู่นานถึง 3 ปีแล้วแต่ไม่เคยให้หวยแม่นเลยสักครั้งหนึ่ง 

         อย่างไรก็ตามเมื่อเรื่องนี้มีการเปิดเผยออกไปนักข่าวก็ลงไปสำรวจบ้านหลังที่อยู่ในคลิปดังกล่าว

ซึ่งคนที่อยู่ในคลิปนั้นรวมถึงคนที่โพสต์นั้นเป็นคนในเขตอำเภอเมืองจังหวัดบุรีรัมย์โดยทางเจ้าของบ้านและเป็นคนที่เผาศาลพระภูมิได้เจ้าข้อมูลให้กับนักข่าวฟังว่าก่อนที่เขาย้ายมาอยู่บ้านหลังดังกล่าวนั้นทราบมาว่าสถานที่ตรงแถวบริเวณบ้านนั้นคือทางสามแพร่ง

            เมื่อย้ายเข้ามาอยู่ก็เคยฝันว่ามีคนมาขออาศัยอยู่เพราะบอกว่าไม่มีที่อยู่อาศัยเมื่อตื่นขึ้นมาเขาจึงได้มีการไปซื้อศาลพระภูมิซึ่งเป็นบ้านทรงไทยมาตั้งเอาไว้เพื่อให้ผีที่ไม่มีที่อยู่อาศัยได้เข้ามาอยู่โดยจะมีการถวายน้ำแดงและขนมให้อย่างไรก็ตามทางเจ้าของบ้านเป็นคนที่ชื่นชอบการซื้อลอตเตอรี่ซื้อหวยใต้ดินทุกครั้งเมื่อใกล้รางวัลจะออกก็จะมีการจุดธูปขอหวย

        อย่างไรก็ตามเจ้าของบ้านยืนยันว่าตั้งแต่ตั้งศาลพระภูมิให้อยู่เป็นระยะเวลานาน 3 ปีแล้วเขาไม่เคยถูกหวยเลยสักครั้งทุกครั้งก็จะมีการเฉียดไปเฉียดมาทำให้เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมากเขาจึงได้มีการจุดไฟเผาก่อนที่จะจุดไฟเขาก็ต้องมีการตะโกนบอกให้ผีที่อาศัยอยู่ในศาลพระภูมิรู้ด้วยว่าถ้าให้หวยแม่นๆก็จะไม่มีที่อยู่อาศัยอย่างไรก็ตามเจ้าของบ้านระบุว่าเขาจะมีการนำศาลพระภูมิหลังใหม่มาตั้งซึ่งจะซื้อเป็นแบบสไตล์โมเดิร์นมาให้อยู่เผื่อว่าผีที่มาอยู่อาศัยนั้นจะเช่าบ้านสไตล์โมเดิร์นแล้วจะให้หวยแม่นขึ้น

        เมื่อมีการสอบถามไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีการเข้ามาดูแลเรื่องนี้หรือไม่ก็ได้รับการแจ้งจากเจ้าของบ้านว่าในวันที่เผาศาลพระภูมินั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมายังจุดเกิดเหตุซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำเพียงแค่ว่ากล่าวตักเตือนเท่านั้นเพราะเขาเผาศาลพระภูมิอยู่ในเขตพื้นที่บ้านและไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร

 

สนับสนุนโดย   แทงบอลออนไลน์

โซเชียลเมนต์สนั่น  หลังคนแชร์บริษัทรับสมัครไอทีซัพพอร์ท เงินเดือน 20,000 บาท แต่หน้าที่ล้านแปด 

            โซเชียลเมนต์สนั่น  หลังคนแชร์บริษัท  เมื่อวันที่ 15 เดือนมิถุนายนปีพศ. 2565 ได้มีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งได้มีการโพสต์แชร์ข้อความการรับสมัครงานของบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งมีการระบุว่าบริษัทดังกล่าวอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปูโดยสำนักงานใหญ่นั้นจะอยู่ที่เขตบางขุนเทียน

ซึ่งบริษัทนี้มีการดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนานโดยทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารแช่แข็งต้องการรับสมัครบุคลากรเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งของไอทีซัพพอร์ต

         อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นก็คือรายละเอียดของการรับสมัครงานที่ระบุตำแหน่งไอทีซัพพอร์ตแต่มีการลงข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ว่าหากได้เป็นพนักงานของบริษัทดังกล่าวแล้วในตำแหน่ง IT support ที่รับไปนั้นจะต้องทำงานอะไรบ้าง ซึ่งมีการร่ายยาว หลายบรรทัดโดยระบุในเรื่องของการดูแลทั้งหมดของทางโรงงาน

          โดยมีเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ไอทีซัพพอร์ต เข้าไปดูแลแก้ไขปัญหาถึง 80 เครื่องในขณะที่มีเครื่องเซิร์ฟเวอร์ของทางโรงงานสูงถึง 13 เครื่องด้วยกันโดยคนที่เข้าไปทำงานในตำแหน่งไอทีซัพพอร์ตที่มีการเปิดรับสมัครงานนี้จะได้รับเงินเดือนอยู่ที่ 18000-20000 บาทและให้ทำงานวันจันทร์ถึงวันศุกร์ช่วงเวลา 8:00 น ถึง 17:30 น. 

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่ข้อความนี้ถูกโพสต์ออกไปปรากฏว่าคนในโลกออนไลน์เข้ามาแสดงความคิดเห็นและคอมเม้นกันสนั่นโซเชียลเลยทีเดียว

เนื่องจากว่าหน้าที่ที่มีการระบุเอาไว้ให้ ID support รับผิดชอบนั้นมีมากจนเกินไปและบางหน้าที่นั้นไม่สามารถที่จะทำงานคนเดียวได้เรียกได้ว่าไม่ได้ทำงานในตำแหน่งไอทีซัพพอร์ตแต่เหมือนเป็นเบ้ที่ทำทุกอย่างภายในโรงงานเลยทีเดียว

           เพราะทั้งดูแลในเรื่องของระบบ CCTV ระบบ Wifi และยังเป็นระบบการทำงาน Video Call การทำงานเครื่องคอมพิวเตอร์ของพนักงานทุกคนในโรงงานการดูแลโดเมนและอย่างอื่นๆอีกมากมายเรียกได้ว่าหน้าที่นั้นเป็นหน้าที่ทำงานร้อยแปดพันเก้าเลยทีเดียวในขณะที่เงินเดือนได้เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น

           นอกจากนี้ไม่ได้ทำงานเพียงแค่โรงงานอย่างเดียวแต่ยังต้องดูแลระบบไอทีของสำนักงานใหญ่อีกด้วยซึ่งทำให้หลายคนมองว่าหากเข้าไปปฏิบัติงานจริงๆคงเหนื่อยน่าดูและหลายคนนั้นมองว่าบริษัทนั้นมีเงินลงทุนที่จะซื้อ Server ถึง 13 ตัวด้วยกันก็ควรที่จะมีการลงทุนจ้างพนักงานให้มากกว่านี้และควรที่จะมีการลงทุนจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานที่ทำในตำแหน่งไอทีซัพพอร์ตแต่หน้าที่ในการดูแลระบบคอมพิวเตอร์นั้นเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดแบบนี้ 

    อย่างไรก็ตามสำหรับบริษัทหรือโรงงานใหญ่ๆนั้นโดยปกติแล้วจะไม่ได้มีการจ้างพนักงานไอทีซัพพอร์ทเพียงแค่คนเดียวทำงานทั้งหมดแต่น่าจะมีแผนกอื่นเช่น Network Engineer หรือไอที Manager คอยช่วยทำงานด้านนี้ด้วยซึ่งเรื่องนี้คงต้องให้ทางบริษัทดังกล่าวออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องของระบบงานอีกทีนึง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ufabet

ลูกน้องของโอปป้าคิวเท  2 คน พยายามหาทางคืนดี อยากกลับมาทำงานอีกครั้ง 

          จากกรณีที่ยูทูปเบอร์ชาวเกาหลีใต้คนหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวว่าตนเองนั้นถูกลูกน้องทั้งที่ไว้ใจจำนวน 4 คนหักหลังโดยลูกน้องนั้นนำข้อมูลส่วนตัวของบริษัทตนเองไปให้กับลูกค้าแถมยังรับงานเองแอบเปิดบริษัทเองที่สำคัญยังมีการขโมยทรัพย์สินของป้าหนุ่มรายนี้ไปขายอีกด้วย

ซึ่งยูทูปเปอร์ชายคนดังกล่าวนั้นก็ได้มีการโพสต์เล่าเรื่องราวของตนเองนั้นผ่านทาง Social นอกจากนี้ยังมีการไลฟ์สดพูดถึงกรณีที่ถูกลูกน้องที่ตนเองไว้ใจหักหลังด้วยทำให้ชาวเน็ตนั้นต่างก็ออกมาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมากส่วนใหญ่นั้นก็มาปลอบใจให้กำลังใจโอปป้าหนุ่มในขณะเดียวกันก็พากันไปถล่มลูกน้องออก้าหนุ่มทั้ง 4 คนที่หักหลังเจ้านายของตนเอง 

       อย่างไรก็ตามล่าสุดทางจากเรื่องนี้เป็นข่าวโด่งดังปรากฏว่ามีลูกน้องของโอปป้าหนุ่มจำนวน 2 คนนั้นได้มีการประสานงานขอความคิดเห็นจากทนายความ

โดยต้องการที่อยากจะกลับมาทำงานร่วมงานกันกับทางโอปป้าคิวเทอีกครั้งหนึ่ง  โดยพนักงานทั้งสองคนก็คือน้ำหวานและไจแอนท์ซึ่งเป็น 2 คนที่มีการแอบนินทาโอปป้าคิวเทรับหลังรวมถึงยังมีการนำความลับของบริษัทของโอปป้าคิวเทไปให้กับลูกค้า

         อย่างไรก็ตามลูกน้องทั้งสองคนยืนยันว่ายังคงรักเจ้านายเดิมของตนเองและไม่ได้มีแนวความคิดที่จะหักหลังเจ้านายหนุ่มยังคงรักและนับถืออยู่เสมอและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะกลับมาร่วมงานกันได้อีกส่วนเรื่องเงินเดือนนั้นมั่นใจว่าโอปป้าหนุ่มนั้นให้เงินค่อนข้างสูง 

          อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจากทนายความซึ่งเป็นตัวแทนของลูกน้องของโอปป้าคิวเททั้งสองคนได้มีการเปิดเผยออกมาเมื่อวันที่ 16 เดือนมีนาคมปีพศ. 2565 ว่าหลังจากที่เป็นข่าวโด่งดังและถูกชาวโซเชียลโจมตีนั้นทั้งน้ำหวานและไจแอนท์ต่างก็รู้สึกเสียใจกับการกระทำของตนเองที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก

ซึ่งเขาได้เล่าเหตุการณ์เรื่องราวทั้งหมดว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเพราะอะไรแล้วตอนนี้เขารู้สึกเสียใจมากแค่ไหนซึ่งทางน้ำหวานและไจแอนท์นั้นเล่าเหตุการณ์ให้ทนายความฟังไปก็ร้องไห้ไปซึ่งถือได้ว่าค่อนข้างสำนึกผิดมากเลยทีเดียว

          อย่างไรก็ตามน้ำหวานและไจแอนท์นั้นยืนยันว่าพวกเขาได้ไม่เคยขโมยทรัพย์สินของป้าหนุ่มคิวเทไปขายรวมถึงไม่เคยนำข้อมูลความลับของโอปป้าไปขายเช่นเดียวกันและไม่เคยนินทาว่าร้ายแต่ที่ต้องลาออกจากงานนั้นก็เพราะว่าน้อยใจ opa เนื่องจากว่ามีเรื่องราวการเกิดขึ้นภายในออฟฟิศซึ่งหลังจากตัดสินใจลาออกจากงานแล้วก็ยังไม่ได้มีการไปทำงานใหม่ที่ไหนแต่อย่างใด

         อย่างไรก็ตามทางน้ำหวานและไจแอนท์นั้นอยากจะปรับความเข้าใจกับโอปป้าคิวเทมากจึงอยากจะให้ทนายความเป็นช่วยเป็นตัวกลางในการประสานในเรื่องนี้หวังว่าจะกลับมารักกันได้เหมือนเดิมและทำงานร่วมกันได้เหมือนเดิม

 

ได้รับการสนับสนุนจาก    ทางเข้า gclub มือถือ

ครูสาวซ้ำใจถูก แฟนหนุ่มเทงานแต่ง หลอกให้รัก  แล้วกลับไปจดทะเบียนสมรสกับแฟนเก่า 

ว่าที่เจ้าสาว ซ้ำรัก  วางแผนเตรียมงานแต่งทุกอย่างไว้ครบทุกอย่าง  กำลังจะได้ใช้ชีวิตคู่กับแฟนหนุ่ม  ซึ่งทั้งคู่นั่นมีอาชีพรับราชการครู  ทั้ง2คน   คบหาดูใจกันมาได้ประมาณ 2 เดือน  ก็ตงลงกันว่าจะจัดงานแต่งงานให้สมเกียรติทั้งคู่   ฟังดูแล้วเหมือนจะราบรื่น

แต่เรื่องราวจากดี กลายเป็นเรื่องร้ายสำหรับว่าที่เจ้าสาว    ทำร้ายจิตใจโดยโดน บอกเลิกและยกเลิกงานแต่งทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น 

ซึ่งหลังจากนั้นครูน้ำ   ว่าที่เจ้าสาว ก็มาโพสต์ข้อความระบายในเฟชบุ๊ค กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนเอง ถึงเรื่องเลวร้าย   โดนหลอกให้รัก  ฝ่ายชายแอบคบซ้อน   และไปจดทะเบียนกับแฟนเก่า    เรื่องราวทั้งหมดยอมรับว่าเป็นเรื่องของคน2คน แต่อยากแชร์ประสบการณ์ที่ตนเองเจอ  โดยโดนฝ่ายชายทำร้ายจิตใจ จนอาการโรคซึมเศร้ากำเริบ   

เนื่องจากว่าระหว่างทางที่คบหาดูใจกันนั้นก็มีเรื่องราวเกิดขึ้นจากความเจ้าชู้ของฝ่ายชาย  โดยมีหญิงสาวคนหนึ่งทักทายมาช่องแชทเฟชบุ๊คมาหาครู น้ำ 

ซึ่งประมาณถามว่าเห็นลงรูปคู่กับ ครูเก้า  ฝ่ายชายเป็นอะไรกัน ทางครูน้ำ ผู้เสียหายก็แจ้งว่าเป็นแฟนกันและกำลังจะแต่งงานกัน  ทางฝ่ายหญิงแฟนเก่าอีกคนนั้นก็แจ้งกับครูน้ำว่า  ครูเก้า ฝ่ายชายนั้น  ทำเรื่องกู้สัญญาซื้อบ้านไว้กับฝ่ายหญิง  แฟนเก่า   หลังจากทราบเรื่องครูน้ำก็ได้พูดคุยกับครูเก้า  ทำไมมีเรื่องราวนี้เกิดขึ้น ทางฝ่ายชายก็แจ้งว่าได้เลิกรากันไปแล้ว 

ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ได้มีการกู้ทำสัญญาซื้อบ้านกัน  แต่เกิดการทะเลาะกัน  งอแง กัน  ทางฝ่ายชายมาเจอกับครูน้ำ  ก็เลยตัดใจจากฝ่ายแฟนเก่าแล้วมา คบครูน้ำ    จากนั้นทั้ง 3 คนก็ได้มีการตกลงกันแล้ว  ฝ่ายชายยืนยันจากปาก ทางโทรศัพท์ บอกว่ารักครูน้ำ และเลิกกับแฟนเก่าแล้ว ทุกอย่างจบ แล้วเรื่มต้นใหม่   

ตกลงแต่งงานกัน  แต่ฝ่ายชายก็บอกมาแล้วว่าไม่พร้อมเรื่องเงินทอง   ทางฝ่ายครูน้ำ ด้วยความที่รักแฟน ก็ออกค่าใช้จ่ายเอง  ทั้งหมด  แต่บอกกับครูเก้า ฝ่ายชายว่าไม่เสียค่าใช้จ่าย  ฝ่ายเจ้าบ่าวจะได้ไม่เครียดกับงานแต่งงาน และเรื่องเงิน  ฝ่ายครูน้ำ ดูแลหมด  แต่จากนั้นทางครูเก้า ว่าที่เจ้าบ่าวกลับไปคบกลับแฟนเก่า  คนที่ทักมาหาครูน้ำ   ทำให้ครูน้ำเสียความรู้สึก   

ต้องการเรียกร้องค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายไปทั้งหมดคืน    จะมาอ้างเพราะครูน้ำ เป็นโรคซึมเศร้า  ทำให้อยู่ด้วยกันไม่ได้ อารมโมโหร้าย   อยู่กันต่อไปไม่ได้  ขอจบแยกย้ายกัน และบล็อกการติดต่อทุกช่องทาง     ทำให้ครูน้ำติดต่อทางครูเก้าไม่ได้   ได้ร้องไปยังโหนกระแส เพื่อให้มาชำระเงินทั้งหมดที่มีค่าใช้จ่าย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  www.ufabet.com เริ่มเดิมพัน

พยาบาลสาวถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกสูญเงินเกือบ 1 ล้าน 

             เรื่องราวของแก๊งมิจฉาชีพที่มักจะโทรหาผู้คนโดยอ้างว่าโทรมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติบ้างหรือสถานีตำรวจสนไหนบ้างเกี่ยวกับเรื่องของการพบการส่งพัสดุไปต่างประเทศแล้ว

ตรวจพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายหลังจากนั้นก็จะให้โอนเงินเพื่อมาตรวจสอบและรับปากว่าหลังจากตรวจสอบเสร็จแล้วภายในระยะเวลาเพียงแค่ 1-2 ชั่วโมง

ก็จะมีการโอนเงินคืนซึ่งมิจฉาชีพใช้กลเม็ดนี้หลอกลวงผู้คนเป็นจำนวนมากแล้วก็มีข่าวโด่งดังตลอด 2-3 เดือนที่ผ่านมา

            อย่างไรก็ตามก็ยังมีคนที่หลงเชื่อมิจฉาชีพทั้งที่ก็ใช้มุขเดิมในการหลอกให้โอนเงินไปให้ซึ่งล่าสุดเป็นถึงพยาบาลของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสงครามถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินให้สูญเงินเกือบ 1 ล้านบาทเลยทีเดียวโดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 เดือนมีนาคมปีพศ. 2565

พยาบาลสาวรายนี้บอกว่าเธอได้รับสายจากเบอร์แปลกๆระบุมาว่าเธอนั้นได้มีการส่งพัสดุไปต่างประเทศแต่เมื่อตรวจสอบด้านในของพัสดุกับพบว่ามีสิ่งผิดกฎหมายนั้นก็คือมีบัตร atm และมีพาสปอร์ตซุกซ่อนอยู่

           ซึ่งตอนนี้พัสดุนั้นอยู่ที่กรมศุลกากรจังหวัดเชียงใหม่โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยว่าหญิงสาวที่เป็นพยาบาลจะ แอบทำผิดกฎหมายโดยการส่งใบพาสปอร์ตปลอมไปให้คนจีนอย่างไรก็ตามวิชาชีพระบุว่าถ้าหากว่าเธอนั้นไม่ได้เป็นคนทำก็จะให้คุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เพื่อจะได้ทำการเคลียร์คดีนี้โดยเร็วและถ้าหากว่าไม่รีบดำเนินการจะมีผลต่อเงินในบัญชีของตัวเธอเองและบัญชีของคนในครอบครัวคนอื่นๆด้วยทั้งนี้ยังมีการต่อสายให้พูดคุยโดยปลายทางระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการส่งรูปภาพโปรไฟล์ว่าตนเองนั้นเป็นตำรวจจริงด้วยการแต่งเครื่องแบบตำรวจรวมถึงมีการถ่ายบริเวณด้านหน้าสถานีตำรวจของจังหวัดเชียงใหม่ให้เห็นอีกด้วยทำให้พยาบาลสาวซึ่งเป็นเหยื่อหลงเชื่อ

            พยาบาลสาวถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอก  หลังจากนั้นก็ทำการโอนเงินไปให้มิจฉาชีพซึ่งโอนไปทั้งหมด 5 ครั้งด้วยกันคิดเป็นเงินประมาณ 8.49 แสนบาท

โดยระยะเวลาในการโอนนะเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเพียงเท่านั้นเองอย่างไรก็ตามหลังจากโอนไปเสร็จเรียบร้อยแล้วพี่สาวก็ไม่สามารถติดต่อแกมิจฉาชีพได้เลยทำให้เธอนั้นมั่นใจว่าตัวเองนั้นถูกมิจฉาชีพหลอกลวงจึงได้นำหลักฐานการโอนเงินไปแจ้งความเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามหามิจฉาชีพและดำเนินคดีโดยมีการแจ้งความไว้ที่สภ. เมืองสมุทรสงครามนั่นเอง

           อย่างไรก็ตามพยาบาลสาวรายนี้ระบุว่าเงินที่เธอโอนให้กับมิจฉาชีพนั้นเป็นเงินที่เธอเก็บมาทั้งชีวิตของเธอและเงินนี้เธอหวังว่าจะเอาไว้ใช้จ่ายในการสร้างบ้านให้พ่อเธออยู่แต่เธอนั้นกลับต้องมาถูกมิจฉาชีพหลอกลวงซึ่งเธอนั้นรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย      ีดฟิำะ

หนุ่มยิงชู้ของภรรยา  เสียชีวิต ที่หน้าว่าการอำเภอ

           เมื่อวันที่ 10 เดือนมีนาคม ปีพ.ศ. 2565 ช่วงเวลาประมาณ 13:10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีเหตุการณ์ยิงกันที่บริเวณลานจอดรถที่อยู่ที่ว่าการอำเภอพนมสารคาม    จังหวัดฉะเชิงเทรา 

โดยเหตุการณ์ยิงกันในครั้งนี้มีผู้บาดเจ็บ 1 คนอยู่ในอาการสาหัสได้มีการประสานงานให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลพนมสารคามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงยังจุดเกิดเหตุผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนยันว่าคนที่ก่อเหตุยิงกันนั้นเป็นชาย 2 คน

โดยระบุว่าชาย 2 คนนั้นเป็นสามีเก่ากับสามีใหม่ของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งคนที่ได้รับบาดเจ็บนั้นคือสามีใหม่ส่วนที่เป็นมือปืนนั้นเป็นสามีเก่าใช้อาวุธปืน 11 มม.ยิงไปที่สามีใหม่จำนวนหลายนัดด้วยกัน

โดยทั้งคู่นั้นมาเจอกันโดยบังเอิญตรงบริเวณด้านหน้าที่ว่าการอำเภอ  

        หลังจากที่ยิงคนจนได้รับบาดเจ็บและผู้ก่อเหตุก็ได้เดินไปบริเวณด้านข้างของโรงพักเจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งจึงได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเองเพิ่งไปยิงคนได้รับบาดเจ็บ

 

หนุ่มยิงชู้ของภรรยา  เสียชีวิต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มายังจุดเกิดเหตุและได้ทำ pcr ก่อนจะมีการส่งตัวผู้บาดเจ็บไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลเบื้องต้นพบว่าผู้บาดเจ็บถูกยิงรวมกันทั้งหมด 5 นัด

        จากคำให้การของผู้ลงมือก่อเหตุยืนยันว่าตัวเขามีภรรยาอยู่ 1 คนอยู่กินกันมานานเกินกว่า 10 ปีแล้วและมีลูกอยู่ด้วยกันสองคน  อย่างไรก็ตามผู้ก่อเหตุให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าในช่วง 2 เดือนแล้วหลังที่ผ่านมานั้นเขามีความรู้สึกว่าภรรยาของเขานั้นเปลี่ยนไปและสงสัยว่าภรรยาอาจจะแอบมีผู้ชายคนใหม่จึงได้เฝ้าพยายามสะกดรอยตามดูแล้ว

ก็พบว่าภรรยามากับผู้ชายคนใหม่จริงซึ่งผู้ชายคนใหม่นั้นมีอาชีพเป็นคนขับรถบรรทุกเมื่อเห็นภรรยามากับผู้ชายใหม่ทำให้ตัวเขานั้นเกิดโมโหจึงใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงสามีใหม่ของภรรยาของตนเองทันที  เนื่องจากไม่พอใจที่ภรรยามากับชายชู้

          อย่างไรก็ตามหลังจากที่ยิงเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็เดินข้ามมาอีกฝั่งหนึ่งของถนนซึ่งเป็นสถานีตำรวจและเข้ามอบตัวนั้นเอง 

               อย่างไรก็ตามมีรายงานเพิ่มเติมว่าช่วงประมาณ 15:00 น. ทางโรงพยาบาลได้มีการประกาศออกมาว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ถูกยิงที่ถูกส่งตัวมารักษาในขณะนี้เสียชีวิตเป็นที่เรียบร้อยแล้วเนื่องจากว่าเสียเลือดมากซึ่งในขณะนี้ญาติของผู้เสียชีวิตได้มีการเตรียมเอกสารมาที่โรงพยาบาลเพื่อจะนำร่างผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่วัดโดยจะมีการจัดงานศพขึ้นที่วัดชายเคืองวนาราม 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  www.ufabet.com ลิ้งเข้าระบบ