คล็อปป์เตือนแข้งหงส์อย่างหลงเหลี่ยมตราหมี

เจอร์เก้น คล็อปป์กุนซือลิเวอร์พูล เชื่อว่าทีมจะพลิกสถานการณ์กลับมาชนะแอต มาดริดผ่านเข้ารอบต่อไปได้ 

เมื่อเกมที่แล้ว กุนซือชาวเยอรมันถึงกับเปลี่ยนตัวซาดิโอ มาเน่ออกหลังจากที่ทีมถูกนำ 1-0 เพราะเกรงว่ากองหน้าชาวเซเนกัลอาจจะถูกใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงได้ คล็อปป์กล่าว่านักเตะฝ่ายตรงข้ามเล่นตามแท็กติกที่กุนซือ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่วางเอาไว้ 

เจอร์เก้น คล็อปป์กล่าวกระตุ้นลูกทีมต้องพยายามรวมใจกันและเล่นเพื่อให้เข้ารอบชิงชนะเลิศ ucl เป็นครั้งที่สามติดต่อกันให้ได้ 

ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลกล่าวว่า ผมเชื่อว่ามันเป็นไปได้ ขณะที่กัปตันทีมจอร์แดน เฮนเดอร์สันพร้อมลงสนามในเกมนี้ แต่ว่าพวกเขาจะขาดอลิสซง เบ๊คเกอร์ที่เจ็บสะโพก เกมที่สองนี้ผมมองว่าไม่ต่างจากเกมแรก แต่ว่าเพราะเกมแรกเราพลาดทำให้ต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่ว่าผมเชื่อว่าบรรดานักเตะในสนามจะอาศัยโอกาสอันน้อยนิดพลิกเข้ารอบได้

คล็อปป์กล่าวต่อว่าเกมนี้ผมต้องการ ผู้ตัดสินที่ทันเกม เกมนั้นผู้ตัดสินชาวโปแลนด์ไม่ทันเกม ทำให้มาเน่ต้องถูกใบเหลืองและผมเกรงว่าเขาจะต้องถูกใบเหลืองที่สองไล่ออก ซึ่งการที่ผู้เล่นคนสำคัญของคุณเสี่ยงต่อการถูกไล่ออกผมก็ต้องรีบชิงเปลี่ยนตัวเขาออกจากสนามจะดีกว่า 

เรารู้ว่าแอต มาดริดเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม พวกเขาพยายามเล่นตามแท็กติกที่วางไว้โดยละเอียดจริงๆ 

แอนดี้ โรเบิร์ตสัน แบ๊กซ้ายของทีมเชื่อว่าเกมวันพุธนี้ ผู้ตัดสินแดนนี่ มัคเคลี่ของเนเธอร์แลนด์ จะต้องคอบดูพฤติกรรมของนักเตะตราหมีที่อาจจะใช้แท็กติกถ่วงเวลาที่สนามแอนฟิลด์นี้ก็ได้ หลังจากที่พวกเขาใช้กลยุทธ์นี้มาแล้วในเกมแรก

แอนดี้กล่าวต่อว่า เรามีประสบการณ์จากเกมที่แล้ว และเราต้องเล่นอย่างเต็มที่ เกมนี้น่าจะเป็นเกมที่อึดอัดแน่ๆ แต่ว่าผมคิดว่าทีมของเราจะเปลี่ยนสถานการณ์ได้ เราไม่อาจตัดสินเกมได้ มันก็ต้องขึ้นอยู่กับกรรมการที่ต้องตัดสินให้ได้อย่างทันเกม

เราจะมองไปที่รูปแบบการเล่นเพียงอย่างเดียว เราจะไม่ยอมให้เรื่องอื่นมากวนใจเรา เราต้องใจเย็นๆและเล่นอย่างมีสติ ผมคิดว่าโอกาสเข้ารอบของทีมยังมีโอกาสสูงอยู่

ลิเวอร์พูลแพ้ 3 จาก 5 เกมหลังโดยเป็นการแพ้ต่อแอต มาดริด 1-0,วัตฟอร์ด 3-0 และเชลซี 2-0 ส่วนเกมที่ชนะคือเปิดบ้านชนะเวสต์แฮม 3-2 และชนะบอร์นมัธ 2-1 เรียกว่าจุดแข็งของทีมคือเกมในบ้าน สนามแอนฟิลด์ของตัวเองที่พวกเขาชนะในเกมลีกในบ้านติดต่อกันมากว่า 22 นัดแล้ว

ใครจะเป็นแชมป์ยุโรป

 ใครจะเป็นแชมป์การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 2020

ซึ่งครั้งนี้รอบสุดท้ายจะจัดกันที่ประเทศโรมาเนียโดยจะมีการแข่งขันตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายนถึง 12 กรกฎาคมกลางปีนี้ โดยการแข่งขันจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 6 สายสายละ 4 ทีมรวมทั้งสิ้น 24 ทีมด้วยกัน ทีมทั้งหมดจะผ่านการคัดเลือกรอบสุดท้ายมาจนมาแข่งที่ประเทศโรมาเนียซึ่งแค่การจับฉลากนี้ ก็สร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมฟุตบอล เพราะผลการจับสลากที่ผ่านมาเกิดการกรุ๊ปออฟเดธขึ้นเพราะ 3 ทีมไม่ว่าจะเป็นเยอรมันนีแชมป์เก่าสามสมัย หรือฝรั่งเศสแชมป์โลกปีล่าสุดและโปรตุเกสแชมป์เก่าเมื่อครั้งที่แล้วได้รวมตัวกันอยู่ใน Group of death

ซึ่งทำให้กรุ๊ปนี้ผู้ชมต่างเฝ้ารอคอยและน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งกรุ๊ปอื่นๆยังมียอดทีมจากทั่วยุโรปไม่ว่าจะเป็นอิตาลี เบลเยี่ยม อังกฤษ ฮอลแลนด์และสเปนซึ่งทุกๆทีมต่างตบเท้าเข้ารอบสุดท้ายกันมาด้วยกันทั้งหมด หากว่ากันตามเนื้อผ้าแล้วทีมที่มีโอกาสจะเป็นแชมป์มากที่สุดและถูกยกให้เป็นเต็ง 1 กับการแข่งขันฟุตบอลยุโรปครั้งนี้กลับกลายเป็นทีมชาติอังกฤษ ซึ่งต้องบอกว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงเพราะทีมชาติอังกฤษอยู่ร่วมสายกับโครเอเชียและสาธารณเช็คซึ่งต้องบอกตามตรงว่าศักยภาพของ 2 ทีมนี้ยังไม่สามารถสู้ทีมชาติอังกฤษในยุคปัจจุบันได้

ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ทีมชาติอังกฤษของแกเร็ธเซาธ์เกตจะมีโอกาสตบเท้าเข้าสู่รอบลึกๆและมีโอกาสคว้าแชมป์ที่แผ่นดินโรมาเนีย ส่วนอีกหนึ่งทีมที่น่าจับตาจับตามองเป็นอย่างยิ่งนั่นก็คือทีมชาติเบลเยี่ยมเพราะขุนพลทีมชาติเบลเยียมของ roberto martinez ถือว่าไม่ธรรมดาทีเดียว เพราะนำทัพด้วยผู้เล่นอย่าง อาซาร์ ยอด Play maker จากทีม Real Madrid และเควินเดอบอยยอดเพลย์เมกเกอร์จากแมนเชสเตอร์ซิตี้ ซึ่งถือว่าเป็นคู่แข่งสำคัญของทีมชาติอังกฤษยุคนี้ และถ้ามองกันจริงๆแล้วมีโอกาสเหลือเกินที่อังกฤษและเบลเยียมจะเข้าชิงกันเองในฟุตบอลยุโรปรอบสุดท้ายครั้งนี้

ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการฟุตบอลเพราะทั้งสองทีมนี้ถูกขึ้นชื่อว่าเคยเป็นยักษ์หลับและกำลังจะตื่นในไม่ช้านี้ เพราะอดีตที่ผ่านมาฟุตบอลยุโรปถูกบดบังด้วยรัศมีของทีมชาติเยอรมันและทีมชาติสเปน จึงทำให้แฟนบอลรุ่นใหม่มักจะไม่ค่อยรู้จักทีมชาติเบลเยียมหรือทีมชาติอังกฤษเท่าไหร่นะถ้าไม่นับแฟนบอลที่มาจากพรีเมียร์ลีก ซึ่งถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง

เบลเยี่ยมได้เข้าชิงกับทีมชาติอังกฤษเราจะมาลองดูกันว่าระหว่างยอดกุนซือ benitez กับยอดกุนซือแกเร็ธเซาธ์เกตใครจะสามารถพาลูกทีมของเขาขึ้นเถลิงบัลลังก์แชมป์ให้กับทีมชาติตัวเองได้