ผู้อำนวยการโรงเรียนยืนยันคิดต่างได้

ผู้อำนวยการโรงเรียนยืนยันคิดต่างได้ไม่ได้ออกแน่นอนกรณีเด็ก 14 ชู 3 นิ้วกลางพิธีถวายพระพร 

      สำหรับกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราชซึ่งมีการจัดพิธีถวายบังคมเนื่องในโอกาสวัน ปิยมหาราชซึ่งนักเรียนรวมถึงคณะครูอาจารย์ทุกคนในโรงเรียนได้จัดพิธีถวายพระพรโดยขนาดนั้นมีการจัดตรงบริเวณลานหน้าโรงเรียนซึ่งอยู่บริเวณหน้าเสาธงนักเรียนทุกคนมาคุกเข่ากำลังถวายบังคมแต่อยู่ๆก็มีเด็กนักเรียนชายคนหนึ่งอายุ 14 ปีได้ยืนขึ้นพร้อมกับชู 3 นิ้วซึ่งเป็นการแสดงสัญลักษณ์ของกลุ่มผู้ประท้วงของคณะราษฎร

        หลังจากที่มีภาพนี้หลุดออกมาในโลกออนไลน์ได้มีกระแสข่าวหายข่าวยืนยันออกมาว่าทางด้านโรงเรียนที่เด็กชายสังกัดนั้นได้มีการไล่เด็กนักเรียนชายคนดังกล่าวออกเนื่องจากมีความคิดเห็นต่างทางการเมือง   อย่างไรก็ตามแต่เมื่อวันที่ 24 เดือนตุลาคมปีพศ2563 ทางด้านผู้อำนวยการของโรงเรียนดังกล่าวได้ออกมาพูดถึงประเด็นนี้ว่าทางโรงเรียนไม่มีนโยบายที่จะขับไล่เด็กนักเรียนชาย

คนนั้นออกจากสถาบันการศึกษาแต่อย่างใดยังคงให้เด็กนักเรียนเข้าเรียนได้ตามปกติเพราะสถาบันการศึกษายอมรับความเห็นต่างของเด็กนักเรียนได้เพียงแต่ว่าคงจะต้องมีการเรียกตัวมาอบรมสั่งสอนการเกี่ยวกับเรื่องของการประพฤติในช่วงเวลาที่เหมาะสมหรือไม่ในการที่จะแสดงสัญลักษณ์ดังกล่าว 

         แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีกระแสข่าวมาว่าโรงเรียนพยายามสร้างแรงกดดันให้เด็กนักเรียนนั้นให้มาลาออกแต่ทางด้านผู้อำนวยการโรงเรียน คือนายภักดี  เหมธานนท์  ยืนยันเป็นหนักแน่นว่าโรงเรียนเบญจมราชูทิศนครศรีธรรมราช   ไม่มีการบีบบังคับให้เด็กมาออกอย่างแน่นอน  โดยในวันดังกล่าวนั้นนักเรียนทุกคนยังทำพิธีการตามปกติและเมื่อเสร็จพิธีการแล้วทุกคนก็เดินทางกลับบ้านไม่มีใครเรียกตัวเด็กนักเรียนชายคนดังกล่าวมาพูดคุยหรือมาต่อว่าซึ่งถ้าหากไม่เชื่อก็สามารถที่จะทำการตรวจสอบหรือว่าสอบถามตัวเด็กเองได้ 

             โดยทางด้านนายภักดี  เหมทานนท์ยังพูดถึงเรื่องของการเห็นต่างด้วยว่าโรงเรียนสนับสนุนความคิดเห็นที่เด็กนักเรียนกล้าที่จะแสดงออกแต่อย่างไรแล้วการแสดงออกนั้นเพราะต้องดูกาละเทศะดูความเหมาะสมด้วยว่าอยู่ในสถานการณ์ไหน 

ซึ่งหลังจากนี้เองทางโรงเรียนอาจจะต้องมีการสอนเกี่ยวกับเรื่องของความเหมาะสมให้กับเด็กนักเรียนเพื่อเด็กนักเรียนนั้นจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ตามสถานการณ์ที่เหมาะสมอีกทั้งในโรงเรียนทุกคนก็ยังเห็นว่าเด็กชายวัย 14 ปีซึ่งกำลังมีกระแสที่โด่งดังอยู่ในขณะนี้ยังคงเป็นนักเรียนของทางโรงเรียนอยู่

       ส่วนเรื่องของผู้ปกครองของเด็กที่จะพาเด็กมาลาออกจากทางโรงเรียนนั้นยังไม่มีข้อมูล การติดต่อมาแต่อย่างใด

เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าอ่านนะครอบครัวของเด็กชายคนดังกล่าวนั้นอยู่ในฐานะที่ค่อนข้างดีเพราะมีมารดาเป็นถึงพยาบาลส่วนบิดานั้นก็เป็นเจ้าของธุรกิจ

 

สนับสนุนโดย  ufabet เว็บแม่