คนไทยหนีการกักตัวที่สุวรรณภูมิ

คนไทยหนีการกักตัวที่สุวรรณภูมิ ตรวจพบมีไข้ เจ้าหน้าที่ตามจับกลับมาได้แล้ว3คน ยังมีหนีไปได้อีกเพียบ

       จากที่มีข่าวว่าเมื่อวันที่ 3 เดือนเมษายนปีพศ. 2563 มีคนไทยที่ไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศพากันเดินทางกลับมาที่ประเทศไทยเป็นจำนวน 100 กว่าคนซึ่งเมื่อเดินทางมาที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้วทางเจ้าหน้าที่มีการตรวจวัดไข้พบว่าบางคนมีไข้ขึ้นสูงแต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่ต้องการเชิญตัวไปกักตัวตามสถานที่ทางเจ้าหน้าที่มีการกำหนดเอาไว้ ปรากฏว่ามีการปฏิเสธผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งหมด

โดยทุกคนต้องการที่จะไปกับตนเองอยู่ที่บ้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เองภายหลังจากที่ผู้โดยสารไม่ยินยอมและออกมาโวยวายจึงได้พากันปล่อยผู้โดยสาร 100 กว่าคนให้กลับบ้านได้แต่มีการกำหนดเอาไว้ว่าจะมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขไปติดตามผู้โดยสารทั้งร้อยกว่าคนว่ามีการกักตัวจริงตามที่มีการรับปากกับทางเจ้าหน้าที่ไว้หรือไม่หลังจากที่เรื่องนี้เป็นข่าวรู้ไปถึงหูพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี   พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาก็ได้มีสั่งลงมาว่าให้ทางเจ้าหน้าที่ติดตาม

ผู้โดยสารที่เดินทางกลับจากต่างประเทศทั้งหมด 100 กว่าคนให้มาทำการกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วันตามมาตรฐานที่ทางรัฐบาลมีการเตรียมการเอาไว้ให้ซึ่งมีรายงานข่าวแจ้งเข้ามาว่าจากการที่ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามไปยังบ้านของผู้โดยสารที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศกลุ่มดังกล่าวพบว่ามี 3 คนที่มีอาการเป็นไข้ขึ้นสูงจึงได้เชิญตัวทั้ง 3 คน

เข้าสู่กระบวนการการปรับตัวและยังมีนโยบายติดตามผู้โดยสารที่เหลืออีก 166 คนให้มาเข้าสู่กระบวนการการจัดตัวที่ทางรัฐบาลจัดเตรียมพื้นที่ไว้ให้อีกด้วยโดยมีการระบุไว้ชัดเจนว่าหาผู้โดยสารคนไหนปฏิเสธการที่จะมากับตัวตามที่ทางรัฐบาลเชิญจะมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

      สำหรับกลุ่มที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงนั้นควรจะมีการกักตัวเพื่อดูแลตนเองและคนในครอบครัวไม่ให้มีการติดเชื้อไวรัส โควิด-19 เพราะสถานการณ์ในประเทศไทยตอนนี้ยังอยู่ในสถานการณ์ที่รุนแรงสำหรับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังนั้นหากใครที่มีความเสี่ยง ก็ควรจะมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการกักตัวเอง แต่คนส่วนใหญ่เวลาที่รับปากจะกักตัวเอง

เมื่อปล่อยให้กักตัวกันเองก็ไม่ยอมทำตาม จึงทำให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคมากอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ดังนั้นทางรัฐบาลจึงต้องคุมเข้มเรื่องของการกักตัว 14 วันเพื่อจะต้องการให้ควบคุมเรื่องของการแพร่ระบาดของไวรัสให้ได้ ดังนั้นหวังว่าคนไทยที่เหลือ 166 คนคงจะเห็นแก่ส่วนรวมเดินทางมามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขเพื่อเข้าสู่ขบวนการการกักตัว

 

 

สนับสนุนโดย  gclub ฟรี 100

12 ศพเซ่น อาถรรถ์วัดร้าง

   มีชาวบ้านมาพบศพชายคนหนึ่งลูกค้าตัวเองเสียชีวิตอยู่ใต้ต้นไม้ภายในบริเวณวัดที่ชื่อว่าวัดกระซ้ายซึ่งวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาช่วยตรวจสอบข้อมูลจากศพพบว่าชื่อว่านายชาติชาย  ศรีสายหยุด  เป็นชาวจังหวัดพระจังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดยตรง ซึ่งก่อนหน้านี้มีคนเห็นว่านายชาติชายเคยมาโวยวายภายในบริเวณวัดโดยระบุว่าจะมาเผาวัดก่อนที่จะมีคนมาพบศพว่ามีการผูกคอตาย

ชาวบ้านต่างเชื่อกันว่านายชาติชายถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษที่มาพูดจาลบหลู่ในบริเวณบัสสถานที่วัดกระซ้ายแห่งนี้ เป็นวัดที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยโบราณอายุน่าจะราวๆ 563 ปีมาแล้วในวัดแห่งนี้สันนิษฐานกันว่าถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นได้ที่นี่เป็นสถานที่บรรจุพระอัฐิของพระบาทสมเด็จพระเอกาทศรถอีกด้วยจึงเรียกได้ว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีประวัติมายาวนาน

และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างมากเป็นวัดที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองอยู่หลายแห่ง โดยแห่งแรกนั้นเชื่อกันว่าเป็นที่อยู่ของหลวงปู่ วัดกระซ้าย  นั้นก็คือที่พรธาตุ  และจุดที่สองคือ ต้นตะเคียน  และอีกจุดคือ ตนคาง ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิ่งสถิตอาศัยอยู่ ที่วัดกระแสแห่งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนมาผูกคอเสียชีวิตแต่มีการผูกคอเสียชีวิต

มานับไม่ถ้วนและรายล่าสุดนี้คือเป็นรายที่ 12 แล้วโดยแต่ละรายก็จะมีเรื่องราวแตกต่างกันไปแจ้งเหตุการณ์ที่ชาวบ้านเล่าลือกันนั้นก็มักจะพากันเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์รวมถึงวิญญาณของพระสงฆ์ที่เคยเสียชีวิตไปแล้วจะมาคอยยืนมองเหมือนไม่พอใจที่เห็นคนเข้ามารุกรานภายในบริเวณวัดซึ่งที่นี่ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา

หรือแม้แต่พระสงฆ์ที่จะเข้ามานั่งปรากฏปฏิบัติธรรมก็ไม่สามารถที่จะเข้ามาอยู่ได้ต่างก็พากันเจอสิ่งเร้นลับจนไม่มีใครกล้าที่จะอยู่แล้วที่นี่ภายใต้อุโบสถต่างๆก็ยังมีของเก่าสมัยตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาซึ่งมีวัยรุ่นหลายคนเคยเข้ามาลองของเพื่อจะขุดเอาพระเก่าไปขายแต่ก็เจอดีเข้าไปราย

     ซึ่งครอบครัวของผู้เสียชีวิตต่างเชื่อว่าที่นายเจ้าชายไปผูกคอเสียชีวิตนั้นน่าจะเกิดจากความเครียดส่วนตัวของนายชาติชายเองเนื่องจากว่าทราบมาว่านายชาติชายมีมีปัญหากับแฟนอาจจะเป็นสาเหตุของการที่ทำให้นายชาติชายไปผูกคอจนถึงแก่ความตายก็ได้แต่หลายคนก็มองว่าเป็นเพราะนายชาติชายไปลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในบริเวณวัดจึงมีการดลใจให้นายชาติชายถูกลงโทษด้วยการแขวนคอตัวเอง

อย่างไรก็ดีที่วัดแห่งนี้จะมีนายสมหมายเป็นผู้ดูแลวัดรวมถึงจะมีทางกรมศิลปากรเดินทางมาทำความสะอาดและตรวจสอบความเสียหายของวัดเดือนละ 2 ครั้งซึ่งถือว่าวัดนี้เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานและควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ดังนั้นประชาชนจึงไม่ควรเข้าไปทำลายหรือไปลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อาศัยอยู่ภายในบริเวณวัด 

 

 

สนับสนุนโดย  betufa

อยากขอโทษทุกคนในสังคมยืนยันไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อ 

ใช่ป่วยโคโรนารายแรกที่เพชรบุรีอยากขอโทษ ทุกคนในสังคมยืนยันไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อ 

   จากทางที่จังหวัดเพชรบุรีมีการออกมาประกาศว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่ารายแรกเป็นเพศชายและตอนนี้อยู่ระหว่างพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลชะอำหลังจากนั้นชาวโซเชียลที่อยู่ในเขตพื้นที่ชะอำต่างก็ออกมาคุยประวัติการเดินทางของชายคนดังกล่าวว่าย้อนหลังไป 14 วันหลังจากที่มีการพบเชื้อนั้นใช่คนต้องการเดินทางไปที่ไหนมาบ้างเพื่อเป็นการย้อนไทม์ไลน์โดยจะได้รู้ว่าตนเองนั้นอยู่ในเครือข่ายที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเพราะว่าไปที่เดียวกับชายคนดังกล่าวหรือไม่ เมื่อหลายคนได้เข้าไปดู Facebook ส่วนตัวของชายคนดังกล่าว ต่างก็ออกมาต่อว่าด่าทอชายผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่ากันเป็นจำนวนมาก

เนื่องจากว่าข้อมูลการเดินทางของชายคนดังกล่าวมีการไปกินอาหารที่ร้านอาหารรวมถึงมีการไปใช้บริการที่ศูนย์รถยนต์ที่หัวหินและยังไปตามสถานที่ต่างๆอีกหลายพื้นที่ซึ่งเมื่อชายหนุ่มเองได้มีการอ่านข้อความที่มีการเข้ามาสาทรใน Facebook ส่วนตัวความรู้สึกไม่สบายใจจึงไม่มีการอัดคลิปลง Facebook ของตนเองเปล่าขอโทษประชาชนที่ตัวเขาเอง

ไม่ได้มีการกักตัวเองอยู่แต่ในบริเวณบ้านทำให้คนอื่นได้รับผลกระทบจากการแพร่เชื้อระบาดของโรคไวรัสโคโรน่าในครั้งนี้ โดยเขาเองได้มีการออกมาบอกว่าตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองไปติดกับที่ไหนมันเป็นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ซึ่งเขารู้สึกว่าร่างกายของเขาปกติดีทุกอย่างไม่ได้มีอาการอะไรและไม่ได้ไปอยู่ใกล้ใครที่เป็นกลุ่มเสี่ยงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาดังนั้นเขาจึงไม่คิดว่าตนเองจะมีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าในครั้งนี้ซึ่งตัวเขาเองก็รู้สึกหวาดกลัวหลังจากที่รู้ว่าตัวเองมีการติดเชื้อไวรัสและเขามารู้ว่าตัวเองติดเชื้อไวรัสโคโรน่าก็ต่อเมื่อเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลก็รู้สึกไม่สบายเหมือนจะเป็นไข้วันที่ 18 เดือนมีนาคมปีพศ 2563

ซึ่งวันนั้นคุณหมอก็ยืนยันว่าตัวเขาเองป่วยเป็นไข้หวัดธรรมดาเท่านั้นอาการไม่ดีขึ้นเขาจะไปตรวจอีกครั้งหนึ่งพบว่าเขามีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าซึ่งในการตรวจครั้งที่ 2 นี้เขาไปตรวจเมื่อวันที่ 22 เดือนมีนาคมปีพศ 2563 ซึ่งหลังจากที่เขารู้ว่าตัวเองป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาเขารู้สึกเป็นกังวลใจและตกใจกลัวมากแต่ก็บอกตัวเองว่าจะสามารถรักษาให้หายได้ถ้าตัวเองดูแลตัวเองเป็นอย่างดีและทำตามที่คุณหมอแนะนำและสั่งการทุกอย่าง

ซึ่งปัจจุบันนี้ทางคุณหมอเองก็มีการดูแลรักษาอาการของผู้ป่วยรายนี้เป็นอย่างดีพร้อมกับให้กำลังใจว่าอีกไม่กี่วันก็น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้แล้วเพราะอาการของผู้ป่วยรายนี้ยังอยู่ในขั้นตอนปกติได้มีการติดเชื้อมากขึ้นระบบการหายใจยังเป็นปกติทุกอย่างไม่ติดเชื้อไม่มีอาการใดที่จะบ่งบอกว่าอาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้สุดท้าย

หลังจากที่มีการอธิบายเหตุผลทุกอย่างให้ประชาชนชาวโซเชียลได้ทราบชายคนดังกล่าวก็ยังมีการร้องขอกำลังใจจากประชาชนโดยบอกเหตุผลว่าตัวเขาเองในตอนนี้กำลังเป็นผู้ป่วยต้องการกำลังใจมากกว่าคำด่าทอจากคนทั่วไปและเขาขอยืนยันว่าเขาไม่รู้ตัวเองจริงๆว่าเขาป่วยไม่เช่นนั้นคงไม่เอาไปแพร่เชื้อให้กับคนอื่นตามที่อยู่ในไทม์ไลน์ที่เขาได้เดินทางไปยังจุดต่างๆก็ขอให้มีการกักตัวเองและมีการเดินทางมาตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่าเพื่อจะได้รีบรักษาอย่างเร่งด่วน 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  บาคาร่าอันดับ

แม่ค้าร้านยำปูม้าเครียดกลัวตำรวจแจ้งความจับ

แม่ค้าร้านยำปูม้าเครียดกลัวตำรวจแจ้งความจับหลังมีการ Like Facebook ประจานตำรวจรีดไถยำปูม้า 

   หากยังจำกันได้ข่าวนี้เป็นข่าวต่อเนื่องจากเมื่อวานที่มีแม่ค้าที่ขายยำปูม้าคนหนึ่งมีการไลฟ์ลง Facebook ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ได้เดินทางมาเพื่อขอจับกุมแรงงานต่างด้าวโดยในไลฟ์เห็นว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางมาขอตรวจสอบเอกสารแรงงานต่างด้าวซึ่งทางแม่ค้ายำปูม้าเองก็บอกว่าพนักงานของตนเองทั้งสองคนมีเอกสารยืนยันอย่างถูกต้องตามกฎหมายและสามารถตรวจสอบได้

โดยจะขอเวลาประมาณซัก 10 นาทีเพื่อเป็นเอกสารมาให้ตรวจสอบแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมรอรวมถึงยังมีการร้องขอยำปูม้าเพื่ออ้างว่าจะเอานำไปเป็นหลักฐานในการประกอบการจับกุมในครั้งนี้ทำให้แม่ค้าคนดังกล่าวไม่พอใจที่ตำรวจมารีดไถประชาชนถึงแม้จะเป็นแค่เพียงยำปูม้าแต่ก็มีค่าใช้จ่ายดังนั้นจึงได้มีการ like facebook การกระทำของตำรวจดังกล่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

ทางต้นสังกัดของตำรวจไม่ออกมายืนยันแล้วว่าตำรวจทั้ง 2 รายนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงและเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก 191 ซึ่งมีหน้าที่เข้าไปตรวจสอบแรงงานต่างด้าวเนื่องจากได้รับรายงานมาว่าแรงงานต่างด้าวทั้งสองคนที่ทำงานอยู่กับเจ๊ร้านขายยำนั้นเป็นแรงงานต่างด้าวแบบผิดกฎหมายแต่ส่วน เรื่องที่มีการร้องเรียนมาว่าตำรวจเรียกร้องยำจำนวน 2 ถุงนั้น

ถ้าตามความจริงแล้วก็คือไม่สามารถเรียกร้องได้เพราะว่าดำ 2 ถุงไม่สามารถนำไปเป็นหลักฐานในการจับกุมแรงงานต่างด้าวได้ซึ่งตรงนี้ทางหัวหน้าของนายตำรวจทั้งสองคนจะมีการสอบสวนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไปซึ่งได้ออกมาบอกว่าจะให้ความเป็นธรรมกับเจ้ร้านขายยำ 

    ซึ่งในขณะนี้พบว่าแม่ค้าร้านขายยาเมื่อเกิดความเครียดเกรงว่าตำรวจจะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับโทษฐานที่ไปไลค์ Facebook ประจานการทำงานของตำรวจทำให้ตอนนี้แม่ค้าร้านขายยำความดันขึ้นจนต้องเข้าไปรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายที่เป็นผู้เสียหายที่อยู่ในคลิปวีดีโอดังกล่าวนั้นตอนนี้ได้มีการออกไปชี้แจงกับทางผู้บังคับบัญชาว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นประหยัดในคลิปและได้มีการไปแจ้งความที่สนห้วยขวางในการฟ้องแม่ค้าร้านขายยำในข้อหาหมิ่นประมาทตนเองด้วย

    ซึ่งหากใครเห็นคลิปวิดีโอดังกล่าวพอจะรู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการรีดไถประชาชนอย่างแน่นอนแต่ก็ต้องมารอดูกันว่าตำรวจจะช่วยเหลือตำรวจด้วยกันเองหรือไม่ถ้าหากให้ความเป็นธรรมกับประชาชนอย่างจริงใจคลิปวีดีโอที่ถ่ายเป็นหลักฐานด้วยนั้นก็สามารถมัดตัวนายตำรวจทั้ง 2 นายได้เป็นอย่างดี 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย   เว็บคาสิโนออนไลน์อันดับ1

เล่นน้ำสงกรานต์ไม่แคร์ พ.ร.ก. ฉุกเฉินกันเลย

สงกรานต์เริ่มแล้ว วัยรุ่นเมืองร้อยเอ็ด จัดใหญ่ไฟกระพริบเล่นน้ำสงกรานต์ไม่แคร์ พ.ร.ก. ฉุกเฉินกันเลย

      กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และเป็นกระแสร้อนแรงอย่างมากเมื่อมีการแชร์ภาพวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในเมืองร้อยเอ็ดได้มีการออกมาจัดกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์กันทั้งๆที่ทางรัฐบาลเองได้มีการประกาศออกมาแล้วว่าในปีพศ 2563 นี้จะไม่มีการเล่นน้ำสงกรานต์ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตามเพราะกลัวว่าหากมีการจัดกิจกรรมสงกรานต์เกิดขึ้นจะทำให้เชื้อไวรัสโควิด-19  มีการแพร่ระบาดมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นทางรัฐบาลจึงได้ประกาศว่าปีนี้ไม่ให้มีการจัดกิจกรรมงานสงกรานต์ไม่ว่าจะเป็นตามท้องถนนหรือแม้แต่ในวัดก็ตามซึ่งในภาพที่มีการแชร์ใน Facebook อยู่ในขณะนี้นอกจากจะมีการกินเหล้าเล่นน้ำสงกรานต์แล้วยังมีการซิ่งรถบนท้องถนนโดยไม่กลัวความผิดแต่ไม่กลัวกฎหมายกันเลยทีเดียวเรียกได้ว่าเป็นการท้าทาย  พ.ร.ก. ฉุกเฉินมันมาก 

      แต่เหตุการณ์ที่กลุ่มวัยรุ่นได้ออกมาเล่นน้ำสงกรานต์แถมยังมีการโพสต์คลิปวีดีโอการแข่งรถกันในช่วงหลังเคอร์ฟิวซึ่งในคลิปจะเห็นว่ามีการแข่งรถกันในช่วงเวลาประมาณ 22.33 นาทีซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลได้ประกาศให้ทุกคนอยู่แต่ในบ้านไม่ออกมาซึ่งถือว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้มีการท้าทายคำสั่งของรัฐบาลอีกทั้งการที่กลุ่มวัยรุ่นชุดนี้ได้ออกมาเล่นน้ำสงกรานต์รวมถึงซิ่งรถกันในช่วงกลางคืนหลังเคอร์ฟิวนั้นสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก

เนื่องจากว่าระหว่างที่มีการแข่งรถจะมีการส่งเสียงดังเอะอะโวยวายและท่อไอเสียของรถยนต์ก็ค่อนข้างเสียงดังเพราะเนื่องจากว่ามีการแต่งรถดังนั้นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจึงได้มีการแอบถ่ายคลิปวีดีโอแล้วนำมาโพสต์ในโลกโซเชียลเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบปัญหาและให้ติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวไปดำเนินคดีเพราะหลายคนเกรงว่าหากยังมีการปล่อยให้กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้กินเหล้าและยังรวมตัวกันเล่นน้ำสงกรานต์จะทำให้เกิดปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสในเขตพื้นที่ที่อยู่อาศัยได้ 

      เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 เดือนเมษายนปีพศ 2563 ซึ่งยังไม่เป็นการเริ่มต้นสงกรานต์ดีก็มีการออกมาท้าทายกฎหมายกันมากแล้วหักในช่วงของวันสงกรานต์คงต้องรอดูกันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำงานหนักมากแค่ไหนในการที่จะรับมือกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการที่จะเล่นน้ำสงกรานต์กันทั้งๆที่มีการประกาศห้ามออกไปแล้ว

  และถ้าหากมีการแอบเล่นน้ำสงกรานต์แล้วเกิดติดเชื้อไวรัสโคโรนากันขึ้นมาก็จะทำให้ประชาชนในประเทศไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นและยังแพร่ระบาดได้มากขึ้นอีกด้วยว่าในช่วงสงกรานต์นี้ผู้คนส่วนใหญ่มักจะกินเหล้าจะทำอะไรโดยที่ไม่ได้ระมัดระวังซึ่งเสี่ยงอย่างมากที่จะติดเชื้อไวรัส

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  gclub

สามีภรรยาฆ่าตัวตายพร้อมกัน

สามีภรรยาฆ่าตัวตายพร้อมกัน สามียิงตัวตาย ส่วนภรรยาใช้มีดแทงตัวเอง

     ที่จังหวัดนครราชสีมาเกิดเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดเกิดขึ้นระหว่างสามีภรรยาคู่หนึ่งซึ่งทั้งคู่ได้มีการก่อเหตุฆ่าตัวตายพร้อมกันโดยฝ่ายสามีนั้นได้ออกมายิงตัวเองตายต่อหน้าพ่อกับแม่ของตัวเอง และฝ่ายภรรยาเมื่อเห็นว่าสามีฆ่าตัวตายก็ได้นำมีดมาแทงตัวเองจนถึงแก่ความตาย เหตุการณ์ในครั้งนี้ทางนักข่าวได้ลงไปยังบ้านที่เกิดเหตุซึ่งได้พบกับพ่อแม่ของผู้ตาย ซึ่งในตอนแรกหลายคนคิดว่าสามีภรรยาคู่นี้อาจจะมีการทะเลาะแต่กันจึงก่อเหตุฆ่าตัวตายด้วยกันทั้งคู่แต่เมื่อได้มาสอบถามญาติพี่น้องรวมถึงพ่อแม่ของผู้ตาย

จึงได้ความว่าทั้งสามีภรรยาต่างก็ยินดีที่จะตายพร้อมกันทั้งคู่ ซึ่งทั้งคู่ได้มีการตกลงกันก่อนที่จะมีการการฆ่าตัวตายแล้วโดยสาเหตุน่าจะมาจากที่ฝ่ายชายเกิดความเครียดที่ถูกไล่ออกจากงานและเกิดความรู้สึกอับอายเพราะชาวบ้านต่างก็มองว่าอาจจะทำผิดอะไรหรือไม่ถึงได้ถูกไล่ออกจากงานจึงเป็นสาเหตุให้ฝ่ายชายคิดฆ่าตัวตายและเมื่อภรรยารู้อย่างนั้นจึงร้องไห้คู่กันและกอดคอกันพร้อมทั้งสัญญาว่าจะตายด้วยกัน

โดยสั่งพ่อกับแม่ของฝ่ายชายได้เล่าให้ฟังว่าฝ่ายชายน่าจะเปลี่ยนใจไม่อยากให้ภรรยาฆ่าตัวตายด้วยเพราะว่าตอนที่เกิดเหตุฝ่ายชายเดินออกมาหาพ่อกับแม่ที่หน้าบ้านแล้วก้มลงกราบพร้อมทั้งบอกว่าขอโทษหลังจากนั้นก็ได้ชักปืนยิงตนเองจนถึงแก่ความตายภรรยาที่อยู่ในห้องได้ยินเสียงปืน

จึงวิ่งออกมาดูและเมื่อเห็นว่าสามียิงตัวเองตายทางภรรยาก็ร้องไห้เสียใจแล้ววิ่งไปในครัวหยิบมีดมาแล้วแทงตัวเองไปจนถึง 4 แผลด้วยกันทำให้ถึงแก่ความตายด้วยกันทั้งคู่ซึ่งหลังจากที่ทั้งคู่ตายแล้วพ่อกับแม่ซึ่งกำลังช็อกอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้โทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านกำนันรวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาช่วยดูแลศพและเมื่อมีการตรวจสอบพื้นที่ได้เข้าไปตรวจสอบห้องนอนของผู้ตายทั้งคู่พบว่ามีการเขียนจดหมายลาตายเอาไว้

โดยในจดหมายระบุว่าต้องผู้ต้องการที่จะตายไปพร้อมกัน  และส่วนที่หลายคนสงสัยว่าตอนที่ฝ่ายชายมากราบลาเพื่อจะยิงตัวตายนั้นเหตุใดพ่อกับแม่จึงไม่ยอมห้ามปรามซึ่งทั้งพ่อกับแม่ได้ออกมาจะบอกว่าตัวพ่อเองนั้นเป็นผู้ป่วยติดเตียงไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ส่วนตัวแม่ก็ชรามากแล้ว

จังหวะที่ฝ่ายชายก้มลงกราบแล้วก็พูดลาไฟฉายก็นำปืนออกมายิงตนเองทันทีจึงทำให้พ่อกับแม่ไม่สามารถห้ามปรามได้ทันส่วนฝ่ายหญิงนั้นหลังจากร้องไห้ฟูมฟายก็วิ่งไปในครัวซึ่งพ่อกับแม่เองก็ไม่สามารถวิ่งตามไปห้ามได้ทันเช่นเดียวกันจึงเกิดเหตุการณ์เศร้าสลดในครั้งนี้เกิดขึ้น

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  www.ufabet.com ลิ้งเข้าระบบ

ตำรวจจับหัวหน้าอุทยานน้ำตกหงาว

ตำรวจจับหัวหน้าอุทยานน้ำตกหงาว เพราะชวนลูกน้องกินเหล้าโดยไม่สน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 

              ในช่วงที่สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  ยังไม่หายไปนี้ทางรัฐบาลเองก็ยังคงมีการออกพรกฉุกเฉินออกมาเพื่อให้ควบคุมสถานการณ์ไม่ให้คนไปแออัดกันรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงในการที่จะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ซึ่งการประกาศพรกฉุกเฉินนี้นั่นรวมหมายถึงว่า  แผนที่ไปรวมตัวกันอยู่ณจุดใดจุดหนึ่งเช่นไปรวมตัวกันอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งไม่ใช่บ้านของตนเองนั้นก็ถือว่าเป็นการทำผิดประกอบเช่นเดียวกันโดยเมื่อวันที่ 24 เมษายนปีพศ. 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการร้องเรียนเข้ามาว่ามีผู้กระทำผิดประกอบเฉินอยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว

  ซึ่งเมื่อทางเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงตรงแถวบริเวณบ้านพักของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติก็พบกลุ่มเจ้าหน้าที่กำลังตั้งวงกินเหล้าและปิ้งย่างกันอย่างสนุกสนานเมื่อทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างก็พากันตกใจซึ่งในขณะนั้นมีการรวมตัวกันอยู่ทั้งหมด 8 คนโดยแบ่งผู้ชายออกเป็น 4 คนผู้หญิง 4 คน

โดยมีหัวหน้าอุทยานน้ำตกหงาวเป็นผู้รับว่าเป็นคนชวนลูกน้องให้มานั่งกินเหล้าด้วยกัน ซึ่งคนที่แจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาดูพื้นที่ในอุทยานแห่งชาติในครั้งนี้ก็คือชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นโดยพวกเขาบอกว่าในช่วงเวลากลางคืนทางเจ้าหน้าที่อุทยานมีการตั้งวงกินเหล้ากันและมีการส่งเสียงดังรบกวนทำให้ชาวบ้านไม่ได้หลับนอนจึงต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจลงมาตรวจสอบพื้นที่หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการส่งชุดตำรวจกลุ่ม 1 ลงมาคอยซุ่มดูบ้านพักของพนักงานอุทยานแห่งชาติ

ซึ่งรอดูได้ประมาณถึงช่วงประมาณสัก 21:00 นก็พบว่ากลุ่มคนงานได้ออกมารวมตัวกันตั้งวงกินเหล้าและส่งเสียงดังและเมื่อเจ้าหน้าที่เห็นแล้วว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายจริงจึงได้มีการแสดงตัวเข้าจับกุมซึ่งขณะที่มีการจับกุมนั้นพบว่าเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติจำนวน 8 คนที่นั่งกินเหล้ากันนั้นไม่มีใครสนใส่หน้ากากอนามัยเลยและบางคนก็ยังมีอาการเมาสุราทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการควบคุมตัวไปที่ สภ. ราชกรูด 

และเหตุการณ์ในครั้งนี้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาวเป็นผู้รับผิดชอบเนื่องจากว่าเป็นคนชวนลูกน้องมากินเองเนื่องจากว่าเห็นว่าช่วงนี้อุทยานแห่งชาติมีการปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวที่นี่แล้วคุณคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทุกคนจึงได้มีการออกมากินเลี้ยงสังสรรค์กันตามปกติซึ่งการกระทำครั้งนี้ถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมายโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการส่งให้ทางศาลไต่สวนพิจารณาคดีอีกครั้งหนึ่ง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  gclub ฟรี 100

คนขายตั๋วรถไฟในอังกฤษติดโควิด ตายเพราะลูกค้าที่มาซื้อตั๋วถ่มน้ำลายใส่หน้า

             ที่ประเทศอังกฤษเกิดเรื่องราวที่น่าสลดใจเกิดขึ้นเมื่อมีคนขายตั๋วรถไฟคนหนึ่งที่ขายตั๋วอยู่ในช่องขายตั๋วประจำกรุงลอนดอนได้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าซึ่งสาเหตุของการติดเชื้อไวรัสนั้นมาจากตอนที่เขาขายตั๋วรถไฟอยู่นั้นได้มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาถมน้ำลายใส่หน้าเขาซึ่งชายคนดังกล่าวตรวจสอบพบภายหลังว่าเป็นผู้ป่วยโรคจิตและหลังจากที่เขาถูกถ่มน้ำลายใส่หน้านั้น

เขาก็มีอาการปกติทั่วไปหลังจากนั้นไม่นานเขาก็มีอาการกำเริบอย่างหนักและเสียชีวิตในเวลาต่อมา   การที่คนขายตั๋วรถไฟเสียชีวิตเพราะติดเชื้อไวรัสโคโรนานี้ถูกมีการเผยแพร่เรื่องราวออกมาเมื่อวันที่ 12 เดือนพฤษภาคมพศ2563 เมื่อมีรายงานข่าวจากสำนักข่าวแห่งหนึ่งว่าหญิงสาววัย 47 ปีเธอมีหน้าที่ในการนั่งขายตั๋วรถไฟอยู่ในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ

โดยเธอมีการประจำอยู่ที่สถานีรถไฟวิคตอเรียถูกผู้โดยสารชื่อมาซื้อตั๋วถ่มน้ำลายใส่หน้าซึ่งเธอไม่รู้มาก่อนว่าผู้โดยสารคนดังกล่าวติดเชื้อไวรัสโคโรน่า  ซึ่งผู้โดยสารคนดังกล่าวนั้นไม่ได้มีการถ่มน้ำลายใส่หน้าเฉพาะเธอเท่านั้นแต่เพื่อนของเธอก็โดนด้วยเช่นกันและหลังจากนั้นไม่นานเธอ

และเพื่อนก็มีอาการไม่สบายเกิดขึ้นและเมื่อเธอและเพื่อนไปตรวจที่โรงพยาบาลก็พบว่าเธอและเพื่อนต่างติดเชื้อไวรัสโคโรน่าด้วยกันทั้งคู่หลังจากเธอเธอมีอาการป่วยที่รุนแรงขึ้นทางครอบครัวของเธอก็ได้นำตัวเธอส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแต่อาการของเธอไม่ดีขึ้นเนื่องจากว่าเธอมีอาการป่วยเกี่ยวกับเรื่องของโรคทางเดินหายใจอยู่แล้ว

ดังนั้นเมื่อเธอมาป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่าอาการของเธอจึงทรุดลงอย่างรวดเร็วและในที่สุดแค่เพียงสามวันที่เธอติดตัวเท่านั้นเธอก็เสียชีวิตลงโดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามติดตามตัวผู้ชายที่ถ่มน้ำลายใส่หน้าเธอมาทำการสอบสวนโดยพบว่าผู้ชายคนดังกล่าวนั้นมีอาการป่วยทางจิต อย่างไรก็ดีหลังจากที่มีข่าวเรื่องที่เธอถูกถ่มน้ำลายใส่หน้าแล้วติดเชื้อไวรัสโคโรน่านั้นและเสียชีวิต

ในเวลาต่อมาและเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วทำให้ทางการรถไฟเองได้ออกมายอมรับถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นพร้อมกับรับปากว่าจะมีการดูแลความปลอดภัยของทั้งพนักงานและผู้โดยสารที่มาใช้บริการรถไฟให้มากขึ้นกว่าเดิม  เพื่อที่ผู้โดยสารที่มาใช้บริการรวมถึงพนักงานที่คอยให้บริการลูกค้าอยู่ที่สถานีรถไฟจะได้มั่นใจในความปลอดภัยของตนเอง

โดยทางสถานีรถไฟจะเพิ่มมาตรการป้องกันเกี่ยวกับการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าให้มากขึ้นกว่าเดิม

 

 

สนับสนุนโดย  gclub มือถือ ทดลองเล่น

สายธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยป้าที่ได้รับผลกระทบไม่ได้รับเงินเยียวยาจากเราไม่ทิ้งกัน

      หากยังจำกันได้ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันมีชาวบ้านต่างรวมตัวกันไปประชุมที่กระทรวงการคลังเรื่องของการไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทจากโครงการเราไม่ทิ้งกันซึ่งประชาชนเหล่านั้นต่างได้รับการปฏิเสธการจ่ายเงินเยียวยาโดยให้เหตุผลว่าไม่เข้าข่ายที่จะได้รับเงินเพราะบางคนก็เป็นเกษตรกรหรือบางคนก็ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ซึ่งจากข้อมูลการปฏิเสธจากบ้านต่างก็ไม่พอใจกันเป็นจำนวนมาก

โดยหลายคนพบว่าตนเองไม่ได้ทำงานเกษตรกรอย่างที่ทางโครงการมีการระบุเอาไว้แต่กลับให้เหตุผลที่ไม่ตรงกับอาชีพที่ตนเองส่งเรื่องไปหลายคนจึงได้มีการเข้าไปเรียกร้องเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับตนเองเนื่องจากเงิน 5,000 บาทถึงแม้ว่าจะดูน้อยนิดแต่ก็สามารถต่อชีวิตสำหรับคนที่ไม่มีจะกินในช่วงนี้ได้โดยในวันดังกล่าวได้มีป้าวัยกลางคนคนหนึ่งใส่เสื้อสีเหลืองออกมาโวยวายให้สัมภาษณ์กับทางนักข่าวถึงปัญหาที่เธอกำลังเผชิญอยู่ว่าเธอมีอาชีพขายตุ๊กตาตามตลาดนัด

ซึ่งเมื่อตลาดปิดเธอไม่สามารถขายตุ๊กตาได้มือถือลงทะเบียนไปแล้วกลับได้รับข้อความปฏิเสธทำให้เธอเสียใจและไม่รู้จะทำยังไงต่อไปโดยเธอยังบอกอีกว่าปัจจุบันเธอค้างค่าค่าน้ำ เป็นจำนวน 2 เดือน  และยังค้างค่าไฟอีกเป็นจำนวน 2 เดือน แถมตัวเองก็ยังต้องเลี้ยงหลานอีก 1 คนพึ่งอายุแค่เพียงขวบกว่าๆเท่านั้นที่สำคัญเงินเหลือติดตัวตอนนี้เธอเหลือไม่ถึง 500 บาท

ด้วยซ้ำไปอย่างงั้นความหวังของเธอก็คือรอเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล 5,000 บาทนี้แต่เมื่อเธอถูกปฏิเสธออกไปเธอก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรเพราะยังไงเธอก็ต้องอดตายอยู่ดีซึ่งเมื่อนักข่าวได้มีการเผยแพร่คลิปเสียงรวมถึงภาพของเธอที่ให้สัมภาษณ์ออกไปผ่านทางสื่อโทรทัศน์รวมถึงสื่อออนไลน์ต่างๆก็มีผู้คนเป็นจำนวนมากต่างรู้สึกสงสารกับชะตาชีวิตของเธอในช่วงนี้

รวมถึงมีดาราอีกหลายคนที่อยากจะช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ไม่   คุณพลอยเฌอมาลย์   โหน่งชะชะช่า  และยังมีดาราอีกหลายคนต่างก็ต้องการให้กำลังใจป้าคนดังกล่าวรวมถึงต้องการช่วยเหลือซึ่งล่าสุดนักข่าวได้ไปขอสัมภาษณ์ป้าอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่เป็นข่าวโด่งดังไปเมื่อสองสามวันที่แล้วโดยคุณป้าคนดังกล่าวได้บอกว่าปัจจุบันมีคนโอนเงินเข้ามาช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก

ซึ่งตอนนี้มีเงินอยู่ในบัญชี 3,000 บาทโดยได้รับการโอนเงินมาจากเหล่าดาราอย่างเช่น โหน่งชะชะช่าก็โอนเข้ามาช่วยเหลือเป็นเงิน 500 บาทด้วยเช่นเดียวกันซึ่งตัวของคุณป้าเองยังไม่กล้าที่จะนำเงินนี้ออกมาใช้เพราะจริงๆแล้วเงินนี้เป็นเงินของประชาชนด้วยความตั้งใจของคุณป้านั้นป้าต้องการได้รับเงินตามสิทธิ์ที่ป้าควรจะได้รับนั่นก็คือเงินช่วยเหลือจากทางรัฐบาล 500 บาทนั้นเอง

และป้าก็ยังฝากขอบคุณทุกคนผ่านทางสื่อที่ช่วยเหลือป้าซึ่งเธอจะนำเงินในส่วนนี้ไปจ่ายหนี้ที่เธอมีอยู่รวมถึงจะนำเงินที่เหลือไปทำธุรกิจขายอาหารหน้าบ้านของตนเองเพื่อให้ครอบครัวสามารถดำเนินการต่อไปได้

 

 

สนับสนุนโดย  จีคลับ เล่นออนไลน์

อาจจะมีทบทวนการให้ขายเหล้าเบียร์กันใหม่

อาจจะมีทบทวนการให้ขายเหล้าเบียร์กันใหม่ เพราะภาพที่คนแห่ซื้อเหล้าเบียร์โดยไม่สนใจเว้นระยะห่างกัน

             หลังจากที่มีภาพวันแรกของการอนุญาตให้เปิดขายเหล้าเบียร์หรือแม้แต่เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นั้นปรากฏว่าในโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพกลุ่มคนเข้าไปแย่งกันซื้อเหล้าและเบียร์ที่ Makro กันเป็นจำนวนมากโดยที่ไม่มีใครสนใจเลยว่าจะต้องมีการเว้นระยะห่างกันซึ่งเมื่อภาพนี้เผยแพร่ออกไปและทางสปกได้ทราบจึงได้มีการออกสื่อประชาสัมพันธ์เตือนประชาชนกลายกลายว่าหากยังมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกการที่อนุญาตให้มีการขายเหล้าเบียร์ได้ก็จะมีการประกาศปิดการขายเหล้าเบียร์ทันที 

           หลังจากที่ทางรัฐบาลได้มีการประกาศผ่อนปรนเกี่ยวกับเรื่องของการอนุญาตให้ประชาชนสามารถขายเหล้าเบียร์ได้รวมถึงสามารถซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปรับประทานได้โดยมีผลมาแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 เดือนพฤษภาคมปี 2563 ที่ผ่านมาซึ่งในวันแรกเลยก็ปรากฏว่าได้มีคนถ่ายรูปการเข้าไปซื้อสินค้าในห้างแม็คโครโดยจุดที่ทำให้รัฐบาลถึงกับต้องกุมขมับนั่นก็คือจุดที่มีการขายเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์เหล้าเบียร์

ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีคนแห่ไปแย่งกันซื้อจนทำให้เห็นว่ามีการทะเลาะกันเกิดขึ้นทางแม็คโครเองก็ได้ออกมาบอกว่าในวันดังกล่าวนั้นสินค้าที่ขายเกี่ยวกับเหล้าเบียร์หรือแม้แต่อ่างทองขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่นานเท่านั้นเองโดยหลังจากที่มีภาพนี้หลุดออกมาทำให้หลายคนเห็นว่าในวันแรกที่มีการเปิดให้ถ่ายนั้นประชาชนมีการเข้าไปกักตุนเหล้าเบียร์กันเป็นจำนวนมาก

โดยไม่สนใจระยะห่างที่เคยมีการขอร้องและทางแม็คโครเองก็ไม่สามารถควบคุมประชาชนไปซื้อของกันอย่างเป็นระเบียบและไม่เกิดความวุ่นวายได้ดังนั้นจากภาพในครั้งนั้นทำให้ทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ออกมาพูดถึงภาพดังกล่าวว่าการที่ชาวบ้านพากันรวมตัวไปซื้อเหล้าเบียร์โดยไม่ยอมเว้นช่วงระยะห่างกันนั้นบางทีนี่เป็นสิ่งที่อาจจะทำให้ทาง    รัฐบาลเล็งเห็นว่าการปล่อยให้มีการค้าขายเหล้าเบียร์นั้นอาจจะไม่ใช่ผลดีอย่างแท้จริง

ซึ่งทั้งนี้ทางนายแพทย์ทวีศิลป์ที่เป็นโฆษกของทางศูนย์  ศบค.  ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้ด้วยว่าหากการที่ปล่อยให้ประชาชนได้มีการซื้อเหล้าเบียร์ได้อย่างเสรีนั้นสถานการณ์ยังคงเป็นอยู่อย่างที่มีในวันสองวันแรกนี้ภายในระยะเวลา 14 วันอาจจะมีการพิจารณาการกลับมาสั่งห้ามการจำหน่ายเหล้าเบียร์อีกครั้งนึงก็เป็นไปได้

ซึ่งจะต้องดูก่อนว่าถ้าตั้งแต่เปิดอนุญาตให้มีการขายเหล้าเบียร์นั้นคนที่ติดเชื้อไวรัสยังมีติดเชื้อเพิ่มอยู่หรือไม่ถ้ายังมีติดเชื้ออยู่และผู้ติดเชื้อยังไม่ลดลงก็อาจจะต้องมีการถ้ามีการจำหน่ายเหล้าเบียร์เป็นการชั่วคราวต่อเนื่องไปอีกดังนั้นตอนนี้ ทาง ศบค. จึงขอดูสถานการณ์ก่อน

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เว็บพนัน ufabet