เด็กนักเรียนมัธยมปาดคอเพื่อน

        สำหรับเหตุการณ์ที่กำลังเป็นที่สนใจของคนในสังคมกันอย่างกว้างขวางนั้นคงหนีไม่พ้นเหตุการณ์ที่เด็กนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานีก่อเหตุเอาปากขวดปาดคอเพื่อนด้วยกันในโรงเรียน ซึ่งต่อมามีการสืบพบว่าโรงเรียนดังกล่าวคือโรงเรียนปทุมวิไล ซึ่งทาง ผอ. ของโรงเรียน ดร. เอกพรต สมุทธานนท์ ได้ออกมายืนยันแล้วว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงในโรงเรียนและเหตุการณ์ก็เป็นไปอย่างที่มีข่าวลงเพียง

แต่เรื่องของการทำโทษเด็กและการห้ามนำภาพไปเผยแพร่นั้นทางโรงเรียนมีเหตุผล ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางผู้ปกครองชองเด็กทั้งสองฝ่ายได้ตกลงเจรจาไกล่เกลี่ยกันเรียบร้อยแล้วและไม่ได้ติดใจอะไร ส่วนที่โรงเรียนไม่ลงโทษเด็กที่ทำความผิดก็เพราะว่า เด็กคนนี้มีประวัติรักษาอาการทางจิตมาตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมต้นแล้ว

ซึ่งทางโรงเรียนก็ทราบ และทราบมาว่าเด็กมีการักษาตัวอยู่กับทางโรงพยาบาล คาดว่าวันเกิดเหตุเด็กอาจไม่ได้ทานยามา จึงทำให้มาก่อเหตุดังกล่าว แต่ก่อนหน้านั้นเด็กคนนี้ก็ไม่ได้เคยทำร้ายใครมาก่อนและคุณครูที่โรงเรียนจะมีการดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ

ซึ่งในขณะนี้เด็กที่ก่อเหตุอยู่ในความดูแลของแพทย์ ทางโรงเรียนไม่ได้สั่งพักการเรียนแต่เป็นการหยุดเพื่อไปรักษาอาการและจะกลับมาเรียนได้เมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับการอนุญาตของแพทย์เจ้าของไข้ ส่วนเรื่องที่บอกกับเด็กไม่ให้ถ่ายรูปแล้วเอาไปโพสต์นั้นเนื่องจากทางโรงเรียนเห็นว่าเด็กทั้งสองคนยังเป็นเยาวชน  ไม่อยากให้มีผลกระทบกับตัวเด็กทั้งสองคนในภายหลังจึงได้ห้ามไป 

       จากการติดตามข่าวที่มีการออกมาบอกกันว่าเด็กที่ปาดคอเพื่อนนั้นมีอาการทางจิตแล้วไม่ได้กินยาจึงมาก่อเหตุดังกล่าว ในโลกออนไลน์ เด็กนักเรียนหลายคนที่อยู่ในโรงเรียนนั้น และเคยโดนผู้ก่อเหตุมาจีบแล้วพอไม่เล่นด้วยก็ด่าและข่มขู่ทำให้เด็กรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยกับการมาเรียนหนังสือหากเด็กที่ก่อเหตุยังคงเรียนหนังสืออยู่ที่นี่

ซึ่งตามความคิดเราในฐานะที่เป็นผู้ปกครองของนักเรียนคนหนึ่ง เราเข้าใจหัวอกของคนที่เป็นพ่อแม่ของเด็กที่ก่อเหตุนะคะว่าอยากให้ลูกเรียนหนังสือไม่อยากให้ย้ายไปที่ไหนเพราะตอนนี้อยู่ชั้น ม. 6 แล้ว อีกแค่ไม่กี่เดือนก็เรียนจบ หากถูกทำโทษเด็กจะเสียอนาคตได้ แต่ถ้าเราอยู่ในฐานะผู้ปกครองของเด็กคนอื่น

เราก็ไม่อยากให้เด็กที่ก่อเหตุยังอยู่ในโรงเรียนนี้ต่อไป ถึงแม้จะออกมาบอกว่าจะพาเข้ารับการรักษาอาการทางจิต แต่ถ้าหากเด็กไม่ยอมกินยาเหตุการณ์แบบนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นอีกได้ แล้วใครจะมารับประกันความปลอดภัยให้กับลูกของเรา ดังนั้นเราอยากให้เด็กรักษาอาการทางจิตให้หายขาดก่อนแล้วค่อยกลับมาเรียนใหม่ดีกว่า

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  สมัคร gclub ไม่มีขั้นต่ำ

กลุ่มธุรกิจที่เสียหายจากผลกระทบของไวรัสโคโรนา

ในปัจจุบันโรคไวรัสโคโรนา ยังเป็นโรคที่อันตรายเพราะยังไม่ยาที่จะรักษาป้องกันได้และนับวันก็ยิ่งระบาดไปทั่วโลก ซึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งนี้เองส่งผลให้เศรษฐกิจย่ำแย่ทั่วทั้งเอเชีย เรามาดูกันว่าประเทศไทยมีธุรกิจไหนบ้างที่ได้รับผลกระทบกับไวรัสโคโรนากันบ้าง

  1. ธุรกิจการท่องเที่ยว เนื่องจากโดยปกติแล้วประเทศไทยมักจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อเหตุการณ์ระบาดของไวรัสโคโรนาเกิดขึ้นนักท่องเที่ยวชาวจีนก็ไม่เดินทางมาเที่ยวทำให้สถานการณ์ของธุรกิจการท่องเที่ยวเริ่มซบเซาลง กิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นไกส์นำเที่ยว  บริษัทที่ทำทัวร์  พวกรถเช่า เรือเช่าต่างๆต่างก็ได้ผลกระทบทั้งหมด
  2. กลุ่มโรงแรม รีสอร์ต เพราะหากไม่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวทำให้โรงแรมและรีสอร์ตก็ไม่มีคนเข้าพักอาศัย ทำให้กลุ่มโรงแรมและรีสอร์ตก็ซบเซาเช่นกัน
  3. ห้างสรรพสินค้า แม้แต่ตามห้างก็มีคนเดินเที่ยวน้อยเพราะคนไทยด้วยกันเองต่างก็กลัวที่จะติดโรคไวรัสโคโรนา เพราะต่างก็ไม่วางใจซึ่งกันและกันว่าใครมีเชื้อบ้างดังนั้น คนส่วนใหญ่จึงต้องป้องกันตัวเองเพราะหน้ากากก็ขาดตลาดดังนั้น ผู้คนส่วนใหญ่จึงไม่ไปในพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น
  4. ร้านอาหาร  สำหรับธุรกิจร้านอาหารเองก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันเพราะลูกค้าชาวต่างชาติจะลงไปมาก แถมลูกค้าที่เป็นคนไทยก็ไม่ค่อยมาทานอาหารนอกบ้านเพราะต่างก็ไม่มั่นใจว่าจะมีเชื้อโรคอยู่ในอาหารหรือไม่ ดังนั้นช่วงนี้ส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะทำอาหารทานกันเองที่บ้านมากกว่า เพราะต่างก็คิดว่าการออกมาในพื้นที่ที่มีคนเยอะจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนามากกว่า
  5. โรงภาพยนตร์  สำหรับโรงหนังนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง ว่าคนจะน้อยมากขนาดไหน เพราะโรงหนังเป็นพื้นที่ที่อากาศไม่ถ่ายเท ดังนั้นจึงค่อนข้างเป็นพื้นที่เสี่ยงอย่างมากที่จะติดเชื้อไวรัสโคโรนา หลายคนจึงเลือกที่จะดูรายการทีวีอยู่ที่บ้านมากว่าในช่วงนี้
  6. ธุรกิจนำเข้าและส่งออก ถือว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่มากในขณะนี้เพราะการสั่งสินค้าส่วนใหญ่ทั้งการส่งออกและสั่งเข้าประเทศไทยจะติดต่อค้าขายกับจีนเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์นึ้ขึ้นต่างก็มีการระแวงว่าหากสั่งสินค้าเข้ามาแล้วจะมีเชื้อโรคติดมากับสินค้าด้วยหรือไม่ทำให้ประชาชนระงับการสั่งสินค้าจากจีน 
  7. ธุรกิจสายการบิน  เนื่องจากโรคไวรัสโคโรนากำลังระบาดไปทั่วโลกดังนั้น นักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่จากประเทศจีนก็มีการงดเดินทางมาท่องเที่ยวกันมากขึ้นจึงทำให้ธุรกิจนี้ค่อนข้างเงียบเหงามากในช่วงนี้

 

 

สนับสนุนโดย  ทางเข้า Ufabet168