คนไทยหนีการกักตัวที่สุวรรณภูมิ

คนไทยหนีการกักตัวที่สุวรรณภูมิ ตรวจพบมีไข้ เจ้าหน้าที่ตามจับกลับมาได้แล้ว3คน ยังมีหนีไปได้อีกเพียบ

       จากที่มีข่าวว่าเมื่อวันที่ 3 เดือนเมษายนปีพศ. 2563 มีคนไทยที่ไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศพากันเดินทางกลับมาที่ประเทศไทยเป็นจำนวน 100 กว่าคนซึ่งเมื่อเดินทางมาที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้วทางเจ้าหน้าที่มีการตรวจวัดไข้พบว่าบางคนมีไข้ขึ้นสูงแต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่ต้องการเชิญตัวไปกักตัวตามสถานที่ทางเจ้าหน้าที่มีการกำหนดเอาไว้ ปรากฏว่ามีการปฏิเสธผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งหมด

โดยทุกคนต้องการที่จะไปกับตนเองอยู่ที่บ้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เองภายหลังจากที่ผู้โดยสารไม่ยินยอมและออกมาโวยวายจึงได้พากันปล่อยผู้โดยสาร 100 กว่าคนให้กลับบ้านได้แต่มีการกำหนดเอาไว้ว่าจะมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขไปติดตามผู้โดยสารทั้งร้อยกว่าคนว่ามีการกักตัวจริงตามที่มีการรับปากกับทางเจ้าหน้าที่ไว้หรือไม่หลังจากที่เรื่องนี้เป็นข่าวรู้ไปถึงหูพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี   พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาก็ได้มีสั่งลงมาว่าให้ทางเจ้าหน้าที่ติดตาม

ผู้โดยสารที่เดินทางกลับจากต่างประเทศทั้งหมด 100 กว่าคนให้มาทำการกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วันตามมาตรฐานที่ทางรัฐบาลมีการเตรียมการเอาไว้ให้ซึ่งมีรายงานข่าวแจ้งเข้ามาว่าจากการที่ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามไปยังบ้านของผู้โดยสารที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศกลุ่มดังกล่าวพบว่ามี 3 คนที่มีอาการเป็นไข้ขึ้นสูงจึงได้เชิญตัวทั้ง 3 คน

เข้าสู่กระบวนการการปรับตัวและยังมีนโยบายติดตามผู้โดยสารที่เหลืออีก 166 คนให้มาเข้าสู่กระบวนการการจัดตัวที่ทางรัฐบาลจัดเตรียมพื้นที่ไว้ให้อีกด้วยโดยมีการระบุไว้ชัดเจนว่าหาผู้โดยสารคนไหนปฏิเสธการที่จะมากับตัวตามที่ทางรัฐบาลเชิญจะมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

      สำหรับกลุ่มที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงนั้นควรจะมีการกักตัวเพื่อดูแลตนเองและคนในครอบครัวไม่ให้มีการติดเชื้อไวรัส โควิด-19 เพราะสถานการณ์ในประเทศไทยตอนนี้ยังอยู่ในสถานการณ์ที่รุนแรงสำหรับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังนั้นหากใครที่มีความเสี่ยง ก็ควรจะมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการกักตัวเอง แต่คนส่วนใหญ่เวลาที่รับปากจะกักตัวเอง

เมื่อปล่อยให้กักตัวกันเองก็ไม่ยอมทำตาม จึงทำให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคมากอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ดังนั้นทางรัฐบาลจึงต้องคุมเข้มเรื่องของการกักตัว 14 วันเพื่อจะต้องการให้ควบคุมเรื่องของการแพร่ระบาดของไวรัสให้ได้ ดังนั้นหวังว่าคนไทยที่เหลือ 166 คนคงจะเห็นแก่ส่วนรวมเดินทางมามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขเพื่อเข้าสู่ขบวนการการกักตัว

 

 

สนับสนุนโดย  gclub ฟรี 100

12 ศพเซ่น อาถรรถ์วัดร้าง

   มีชาวบ้านมาพบศพชายคนหนึ่งลูกค้าตัวเองเสียชีวิตอยู่ใต้ต้นไม้ภายในบริเวณวัดที่ชื่อว่าวัดกระซ้ายซึ่งวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาช่วยตรวจสอบข้อมูลจากศพพบว่าชื่อว่านายชาติชาย  ศรีสายหยุด  เป็นชาวจังหวัดพระจังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดยตรง ซึ่งก่อนหน้านี้มีคนเห็นว่านายชาติชายเคยมาโวยวายภายในบริเวณวัดโดยระบุว่าจะมาเผาวัดก่อนที่จะมีคนมาพบศพว่ามีการผูกคอตาย

ชาวบ้านต่างเชื่อกันว่านายชาติชายถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษที่มาพูดจาลบหลู่ในบริเวณบัสสถานที่วัดกระซ้ายแห่งนี้ เป็นวัดที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยโบราณอายุน่าจะราวๆ 563 ปีมาแล้วในวัดแห่งนี้สันนิษฐานกันว่าถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นได้ที่นี่เป็นสถานที่บรรจุพระอัฐิของพระบาทสมเด็จพระเอกาทศรถอีกด้วยจึงเรียกได้ว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีประวัติมายาวนาน

และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างมากเป็นวัดที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองอยู่หลายแห่ง โดยแห่งแรกนั้นเชื่อกันว่าเป็นที่อยู่ของหลวงปู่ วัดกระซ้าย  นั้นก็คือที่พรธาตุ  และจุดที่สองคือ ต้นตะเคียน  และอีกจุดคือ ตนคาง ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิ่งสถิตอาศัยอยู่ ที่วัดกระแสแห่งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนมาผูกคอเสียชีวิตแต่มีการผูกคอเสียชีวิต

มานับไม่ถ้วนและรายล่าสุดนี้คือเป็นรายที่ 12 แล้วโดยแต่ละรายก็จะมีเรื่องราวแตกต่างกันไปแจ้งเหตุการณ์ที่ชาวบ้านเล่าลือกันนั้นก็มักจะพากันเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์รวมถึงวิญญาณของพระสงฆ์ที่เคยเสียชีวิตไปแล้วจะมาคอยยืนมองเหมือนไม่พอใจที่เห็นคนเข้ามารุกรานภายในบริเวณวัดซึ่งที่นี่ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา

หรือแม้แต่พระสงฆ์ที่จะเข้ามานั่งปรากฏปฏิบัติธรรมก็ไม่สามารถที่จะเข้ามาอยู่ได้ต่างก็พากันเจอสิ่งเร้นลับจนไม่มีใครกล้าที่จะอยู่แล้วที่นี่ภายใต้อุโบสถต่างๆก็ยังมีของเก่าสมัยตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาซึ่งมีวัยรุ่นหลายคนเคยเข้ามาลองของเพื่อจะขุดเอาพระเก่าไปขายแต่ก็เจอดีเข้าไปราย

     ซึ่งครอบครัวของผู้เสียชีวิตต่างเชื่อว่าที่นายเจ้าชายไปผูกคอเสียชีวิตนั้นน่าจะเกิดจากความเครียดส่วนตัวของนายชาติชายเองเนื่องจากว่าทราบมาว่านายชาติชายมีมีปัญหากับแฟนอาจจะเป็นสาเหตุของการที่ทำให้นายชาติชายไปผูกคอจนถึงแก่ความตายก็ได้แต่หลายคนก็มองว่าเป็นเพราะนายชาติชายไปลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในบริเวณวัดจึงมีการดลใจให้นายชาติชายถูกลงโทษด้วยการแขวนคอตัวเอง

อย่างไรก็ดีที่วัดแห่งนี้จะมีนายสมหมายเป็นผู้ดูแลวัดรวมถึงจะมีทางกรมศิลปากรเดินทางมาทำความสะอาดและตรวจสอบความเสียหายของวัดเดือนละ 2 ครั้งซึ่งถือว่าวัดนี้เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานและควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ดังนั้นประชาชนจึงไม่ควรเข้าไปทำลายหรือไปลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อาศัยอยู่ภายในบริเวณวัด 

 

 

สนับสนุนโดย  betufa

อยากขอโทษทุกคนในสังคมยืนยันไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อ 

ใช่ป่วยโคโรนารายแรกที่เพชรบุรีอยากขอโทษ ทุกคนในสังคมยืนยันไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อ 

   จากทางที่จังหวัดเพชรบุรีมีการออกมาประกาศว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่ารายแรกเป็นเพศชายและตอนนี้อยู่ระหว่างพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลชะอำหลังจากนั้นชาวโซเชียลที่อยู่ในเขตพื้นที่ชะอำต่างก็ออกมาคุยประวัติการเดินทางของชายคนดังกล่าวว่าย้อนหลังไป 14 วันหลังจากที่มีการพบเชื้อนั้นใช่คนต้องการเดินทางไปที่ไหนมาบ้างเพื่อเป็นการย้อนไทม์ไลน์โดยจะได้รู้ว่าตนเองนั้นอยู่ในเครือข่ายที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเพราะว่าไปที่เดียวกับชายคนดังกล่าวหรือไม่ เมื่อหลายคนได้เข้าไปดู Facebook ส่วนตัวของชายคนดังกล่าว ต่างก็ออกมาต่อว่าด่าทอชายผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่ากันเป็นจำนวนมาก

เนื่องจากว่าข้อมูลการเดินทางของชายคนดังกล่าวมีการไปกินอาหารที่ร้านอาหารรวมถึงมีการไปใช้บริการที่ศูนย์รถยนต์ที่หัวหินและยังไปตามสถานที่ต่างๆอีกหลายพื้นที่ซึ่งเมื่อชายหนุ่มเองได้มีการอ่านข้อความที่มีการเข้ามาสาทรใน Facebook ส่วนตัวความรู้สึกไม่สบายใจจึงไม่มีการอัดคลิปลง Facebook ของตนเองเปล่าขอโทษประชาชนที่ตัวเขาเอง

ไม่ได้มีการกักตัวเองอยู่แต่ในบริเวณบ้านทำให้คนอื่นได้รับผลกระทบจากการแพร่เชื้อระบาดของโรคไวรัสโคโรน่าในครั้งนี้ โดยเขาเองได้มีการออกมาบอกว่าตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองไปติดกับที่ไหนมันเป็นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ซึ่งเขารู้สึกว่าร่างกายของเขาปกติดีทุกอย่างไม่ได้มีอาการอะไรและไม่ได้ไปอยู่ใกล้ใครที่เป็นกลุ่มเสี่ยงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาดังนั้นเขาจึงไม่คิดว่าตนเองจะมีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าในครั้งนี้ซึ่งตัวเขาเองก็รู้สึกหวาดกลัวหลังจากที่รู้ว่าตัวเองมีการติดเชื้อไวรัสและเขามารู้ว่าตัวเองติดเชื้อไวรัสโคโรน่าก็ต่อเมื่อเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลก็รู้สึกไม่สบายเหมือนจะเป็นไข้วันที่ 18 เดือนมีนาคมปีพศ 2563

ซึ่งวันนั้นคุณหมอก็ยืนยันว่าตัวเขาเองป่วยเป็นไข้หวัดธรรมดาเท่านั้นอาการไม่ดีขึ้นเขาจะไปตรวจอีกครั้งหนึ่งพบว่าเขามีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าซึ่งในการตรวจครั้งที่ 2 นี้เขาไปตรวจเมื่อวันที่ 22 เดือนมีนาคมปีพศ 2563 ซึ่งหลังจากที่เขารู้ว่าตัวเองป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาเขารู้สึกเป็นกังวลใจและตกใจกลัวมากแต่ก็บอกตัวเองว่าจะสามารถรักษาให้หายได้ถ้าตัวเองดูแลตัวเองเป็นอย่างดีและทำตามที่คุณหมอแนะนำและสั่งการทุกอย่าง

ซึ่งปัจจุบันนี้ทางคุณหมอเองก็มีการดูแลรักษาอาการของผู้ป่วยรายนี้เป็นอย่างดีพร้อมกับให้กำลังใจว่าอีกไม่กี่วันก็น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้แล้วเพราะอาการของผู้ป่วยรายนี้ยังอยู่ในขั้นตอนปกติได้มีการติดเชื้อมากขึ้นระบบการหายใจยังเป็นปกติทุกอย่างไม่ติดเชื้อไม่มีอาการใดที่จะบ่งบอกว่าอาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้สุดท้าย

หลังจากที่มีการอธิบายเหตุผลทุกอย่างให้ประชาชนชาวโซเชียลได้ทราบชายคนดังกล่าวก็ยังมีการร้องขอกำลังใจจากประชาชนโดยบอกเหตุผลว่าตัวเขาเองในตอนนี้กำลังเป็นผู้ป่วยต้องการกำลังใจมากกว่าคำด่าทอจากคนทั่วไปและเขาขอยืนยันว่าเขาไม่รู้ตัวเองจริงๆว่าเขาป่วยไม่เช่นนั้นคงไม่เอาไปแพร่เชื้อให้กับคนอื่นตามที่อยู่ในไทม์ไลน์ที่เขาได้เดินทางไปยังจุดต่างๆก็ขอให้มีการกักตัวเองและมีการเดินทางมาตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่าเพื่อจะได้รีบรักษาอย่างเร่งด่วน 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  บาคาร่าอันดับ