หนุ่มหลอน คิดว่าถูกไล่ฆ่า  ถือขวานบุกเข้าโรงเรียน 

           มีการเปิดเผยออกมาตามสื่อข่าว ต่างต่าง ว่าในช่วงวันที่ 25 เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2565 ที่จังหวัดขอนแก่น  ได้เกิดเหตุการณ์  หนุ่มหลอน คิดว่าถูกไล่ฆ่า  มีชายหนุ่มคนหนึ่งเกิดอาการคุ้มคลั่งบุกเข้าไปภายในโรงเรียนแห่งหนึ่งสร้างความแตกตื่นให้กับเด็กนักเรียนและครูอาจารย์เป็นอย่างมาก

เนื่องจากชายคนดังกล่าวนั้นไม่ได้บุกเข้าไปเพียงตัวเปล่าเพียงเท่านั้นแต่ยังมีการถือขวานและถือมีดวิ่งเข้าไปภายในโรงเรียนอีกด้วยซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงเวลาเย็นแล้วมีบาทหลวงกำลังสวดมนต์เย็น 

       เหตุการณ์ที่มีชายคลุ้มคลั่งวิ่งเข้าไปภายในโรงเรียนพร้อมกับอาวุธในมือนั้นสร้างความตกใจให้กับเจ้าหน้าที่ของทางโรงเรียนรวมถึงเด็กนักเรียนและคนที่อยู่ภายในโรงเรียนเป็นอย่างมากทุกคนพยายามวิ่งหนีเข้าไปในตัวอาคารเพื่อทำการหลบซ่อนเพื่อความปลอดภัยของตนเองในขณะเดียวกัน

นั้นหนุ่มที่ก่อเหตุก็ได้ขี่รถมาจอดภายในบริเวณโรงเรียนหลังจากนั้นก็มีการเดินไปที่บริเวณกลางสนามพร้อมกับมีการพูดคุยอยู่คนเดียวที่สำคัญยังเดินไปบริเวณต้นไม้ภายในโรงเรียนและใช้มีดและขวานที่เป็นอาวุธอยู่ในมือมันไปตามต้นไม้ของโรงเรียนอีกด้วย 

         อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้มีการโทรขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาช่วยระงับเหตุชายคลุ้มคลั่งอยู่ภายในโรงเรียนซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับเรื่องก็รีบเดินทางมาทันทีโดยมีการพยายามเจรจากับชายที่คุ้มคลั่งให้วางอาวุธแต่ใช้คลุ้มคลั่ง งพยายามวิ่งหนีออกนอกโรงเรียนและวิ่งผ่านไปทางชุมชนซึ่งอยู่ใกล้กับทางโรงเรียนโดยมีทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามติดตามจับตัว 

         ในที่สุดเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็สามารถควบคุมตัวชายคลุ้มคลั่งเอาไว้ได้และนำมาสงบสติอารมณ์หลังจากนั้นก็พยายามสอบถามข้อมูลทราบว่าชายคนดังกล่าวนั้นอายุ 45 ปีชื่อว่า นายหมั่น ส่วนสาเหตุที่ทำให้ต้องถืออาวุธมีดเข้าไปภายในโรงเรียนนั้นเนื่องจากว่ากำลังถูกคนตามล่าเอาชีวิตจึงต้องมีการหลบหนี ซึ่งนายหมั่นยืนยันว่าตนเองไม่รู้ตัวว่าได้มีการวิ่งหลบเข้าไปภายในโรงเรียน 

        อย่างไรก็ตามในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่กำลังมีการสอบถามและควบคุมตัวในบ้านอยู่นั้นปรากฏว่ามีน้องชายของนายหมั่น ปรากฏตัวขึ้นเมื่อมาถึงก็ได้มีการตบไปที่หูของพี่ชาย 1 ครั้งหลังจากนั้นก็ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ว่าพี่ชายมากินเหล้าเมาทุกวัน 

โดยพี่ชายนั้นไม่มีงานทำซึ่งน้องชายของนายหมั่น ยืนยันว่าปกติแล้วในเมื่อไม่เคยอาละวาดมาก่อน พอรู้เรื่องว่านายหมั่นพกอาวุธมาอาละวาดภายในโรงเรียนก็รู้สึกตกใจ   อย่างไรก็ตามน้องชายของนายหมั่นยืนยันว่าจะส่งพี่ไปรักษาตัวบำบัด เพราะไม่อยากให้ชาวบ้านและเด็กนักเรียนได้รับอันตรายจากพี่ชาย

 

สนับสนุนโดย.    ufabet auto