หญิงมาเลเซียป่วยเป็นมะเร็งแล้วยังต้องมาเสียใจเพราะจับได้สามีนอกใจ

           หญิงสาวชาวมาเลเซียอายุ 44 ปีรายหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คของตัวเองระบายความเศร้าเสียใจว่าเมื่อ 8 เดือนก่อนตัวเองได้ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 4  เธอต้องเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งเต้านมด้วยการตัดนมทิ้งและทำการรักษาด้วยเคมีบำบัดและการให้คีโม เป็นจำนวนถึง 16 ครั้ง

และต่อมาเธอยังตรวจพบอีกว่ามะเร็งเต้านมของเธอได้ลามไปเป็นมะเร็งที่ปอดด้วย จึงทำให้เธอจะต้องเดินทางไปนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล  เพราะต้องต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ และให้ยาแก้ปวดตลอดเวลา ซึ่งเธอต้องเจ็บและทุกข์ทรมานมาก โดยคนที่คอยดูแลเธอขณะที่เธออยู่โรงพยาบาลก็คือลูกสาวของเธอเอง  เธอและสามีมีลูกด้วยกัน 3 คน

เธอต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลานาน จนอาการป่วยของเธอดีขึ้นจึงได้เดินทางกลับมาที่บ้าน ซึ่งในตอนนี้เองที่เธอเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกตจากสามีของเธอ เพราะสามีของเธอจะออกไปนอกบ้านทุกคืน โดยไม่บอกเธอว่าเขาไปไหน ผ่านไปหลายอาทิตย์เขาก็ยังทำตัวเหมือนเดิมคือหายออกจากบ้านในตอนกลางคืน ซึ่งเธอค่อนข้างมั่นใจว่าสามีของเธอคงมีผู้หญิงคนอื่น เธอจึงคุยกับสามีว่าหากเขาต้องการแต่งงานใหม่ ขอให้รอให้เธอตายก่อนแล้วค่อยแต่ง

แต่สามีเธอไม่ได้พูดว่าอะไร ไม่มีความโกรธหรืออารมณ์เสียใส่ บอกแต่เพียงว่าเขารู้สึกสงสารเธอมากที่เธอป่วยเธอพยายามสืบว่าผู้หญิงที่สามีเธอนอกใจไปอยู่ด้วยนั้นเป็นใคร จนวันหนึ่งเธอเอามือถือของสามีมาเช็คข้อมุลการโทรและการแชต ก็พบว่ามีหมายเลขหนึ่งที่สามีเธอติดต่อด้วย โดยข้อความที่คุยกันทำให้เธอมั่นใจว่าเป็นผู้หญิงที่สามีเธอแอบออกไปหาทุกคืนแน่นอน เธอจึงลองเอามือถือตัวเองโทรไปหาผู้หญิงคนนั้น แต่ผู้หญิงคนนั้นรับสาย เธอจึงลองเอามือถือลูกสาวของเธอโทรออกไปหาผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง

  โดยครั้งนี้ผู้หญิงคนนั้น รับสาย และมันก็ทำให้เธอได้รู้ความจริงว่าผู้หญิงที่สามีเธอนอกใจไปหานั้นเป็นน้องสาวแท้ๆของเธอเอง เพราะเธอจำเสียงน้องสาวตัวเองได้ และที่สำคัญเธอได้ยินเสียงแม่ของเธอดังลอดเข้ามาในโทรศัพท์ด้วย เมื่อเธอรู้ความจริง เธอระบายว่าเธอไม่สามารถไปเผชิญหน้ากับสามีและน้องสาวของเธอเพื่อบอกความจริงได้ว่าเธอรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว

เพราะหากพูดออกไป ครอบครัวของเธอจะต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง และที่สำคัญหากลูกๆของเธอรู้เรื่องนี้ ลูกๆของเธอคงรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ เธอไม่ต้องการให้ลูกเสียใจและไม่เคารพพ่อของตัวเอง 

           ในเฟสมีการระบายเอาไว้แค่นี้ แต่ถ้าไม่ได้เข้ามาเขียนเพิ่มเติมว่าสุดท้ายแล้ว เธอทำอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อย่างไรต่อไป ได้แต่หวังว่าเธอจะเข็มแข็งขึ้นในเร็ววันเพื่อพร้อมจะเผชิญกับทุกปัญหาและผ่านมันไปให้ได้

 

 

สนับสนุนโดย  Ufabet ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

ปลาใหญ่มักกินปลาเล็ก

คำพังเพยนี้สามารถใช้ได้กับทุกวงการบนโลกใบนี้ ไม่แม้แต่วงการของฟุตบอล เพราะล่าสุดทางผู้จัดการทีมเลสเตอร์ อย่าง 

เบรนแดน รอดเจอร์ส ก็ยังออกมายอมรับว่า ทีมสุนัขจิ้งจอก เลสเตอร์ซิตี้ ของเค้านั้นคงหนีไม่พ้นที่จะต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากในการรั้งนักเตะตัวเก่งของพวกเขาเอาไว้ได้ และก่อนที่ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจะหยุดแข่งขันไปนั้น ทางเลสเตอร์ ก็รั้งอันดับสาม ของลีกไว้ได้ซึ่งทำให้มีโอกาสดีที่จะไปเล่นแชมป์เปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้า ส่วนนักเตะคนสำคัญของทีมไม่ว่าจะเป็น เบน ชิลเวลล์, เจมส์ แมดดิสัน และวิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ก็ได้รับความสนใจจากหลายๆทีม

และในขณะที่ยังมีสัญญากับทีมอีกนาน แต่ตัวเค้าเองนั้น ก็มองว่ามีโอกาสที่จะเสียนักเตะเหล่านี้ไป เหมือนกับตอนที่เสีย แฮรี่ แมกไกร์ ไปให้กับแมนยูไนเต็ด ดังนั้นเรื่องแบบนี้มันจึงเกิดขึ้นได้เสมอกับทีมที่ไม่ได้ใหญ่มากอย่างพวกเค้า ถึงแม้ว่าทีมของเราจะมีนักเตะดาวรุ่งมากมายที่พร้อมจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีม แน่นอนว่านักเตะในทีมของพวกเค้านั้นมีความกระหายกับชัยชนะและพร้อมที่จะลงเล่นทุกคน

แต่ไม่มีใครการันตรีได้ว่านักเตะทุกคนจะอยู่โยงกับทีมนานแค่ไหน เพราะมันคือความก้าวหน้าและอนาคตของพวกเค้า และนั่นคือความท้าทายในแต่ละฤดูกาลที่จะต้องรักษานักเตะเหล่านี้ไว้ ไม่ต่างกับที่ต้องรักษามาตรฐานผลการแข่งขันทุกนัดให้ดีไว้เช่นเดียวกัน ซึ่งตัวเค้าเองนั้น มักจะบอกให้ลูกทีมมีสมาธิ และพยายามเต็มที่กับงานที่อยู่ตรงหน้า และเค้ามักจะเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันกับลูกทีมทุกคนในแต่ละวัน เพราะเค้ามักจะเป็นกุนซือประเภทที่ร่วมงานกับนักเตะอย่างใกล้ชิด และไม่ใช่เพียงแค่ในสนามเท่านั้น

เพราะนอกสนามเค้าก็ยังคิดที่จะทำแบบนั้น ซึ่งจะทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันและรักสโมสรนี้เหมือนครอบครัวของตัวเอง นั่นคือสิ่งที่เค้าจะพยายามซื้อใจลูกทีมด้วยคำว่าครอบครัว และเป็นครอบครัวที่พร้อมจะดูแลคุณทั้งในสนามและนอกสนาม รวมถึงดูแลไปถึงคนที่คุณรักไม่ว่าจะเป็นภรรยาหรือลูกๆของคุณ เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจที่ทางสโมสรมีให้กับพวกเค้า เหมือนดังเช่น ตอนที่ เจมี่ วาร์ดี้ ดาวยิงตัวเก่งของพวกเค้ามีข่าวคราวว่าจะถูกอาร์เซนอล ทีมยักษ์ใหญ่แห่งลอนดอน ดึงไปร่วมทีม แต่สุดท้าย นักเตะตัวหลักของพวกเค้าก็เปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้าย และให้เหตุผลกับแฟนบอลว่า ที่นี่คือครอบครัวของเค้า

 

 

 

สนับสนุนโดย  คาสิโนออนไลน์ฝากขั้นต่ำ 100